ผลต่างระหว่างรุ่นของ "แม่ชีเจริบ ชาวเสียมเรียบ"

จาก wiki.surinsanghasociety
ไปยังการนำทาง ไปยังการค้นหา
แถว 7: แถว 7:
 
*เย็น วันที่ 1  มิถุนายน  2565  เริ่ม 16.40 น. ให้เดินจงกรมเองคนเดียว 20 นาที  วันนี้นั่งบัลลังก์เดียวรวดเดียว 1 ชั่วโมง  ให้เอาผ้าคลุมเข่า ถือน้ำดื่มไว้ข้างกาย  สามารถบริกรรมภาวนาสัมมาอะระหังได้ต่อเนื่องทั้ง 1 ช.ม.  เลิก 18.00 น. อารมณ์สบายที่สุด ไม่เจ็บปวด  ไม่เมื่อย  มีความสุขมาก มากขึ้นกว่า
 
*เย็น วันที่ 1  มิถุนายน  2565  เริ่ม 16.40 น. ให้เดินจงกรมเองคนเดียว 20 นาที  วันนี้นั่งบัลลังก์เดียวรวดเดียว 1 ชั่วโมง  ให้เอาผ้าคลุมเข่า ถือน้ำดื่มไว้ข้างกาย  สามารถบริกรรมภาวนาสัมมาอะระหังได้ต่อเนื่องทั้ง 1 ช.ม.  เลิก 18.00 น. อารมณ์สบายที่สุด ไม่เจ็บปวด  ไม่เมื่อย  มีความสุขมาก มากขึ้นกว่า
 
*เย็น วันที่ 2  มิถุนายน  2565  เริ่ม 16.40 น. พาเดินจงกรม    ให้นั่งสมาธิเองคนเดียว    ไม่ได้นั่งด้วย  แม่ชีสามารถนั่งได้ 1 ช.ม. โดยมีสัญญาณนาฬิกาปลุก
 
*เย็น วันที่ 2  มิถุนายน  2565  เริ่ม 16.40 น. พาเดินจงกรม    ให้นั่งสมาธิเองคนเดียว    ไม่ได้นั่งด้วย  แม่ชีสามารถนั่งได้ 1 ช.ม. โดยมีสัญญาณนาฬิกาปลุก
*เย็น วันที่ 3  มิถุนายน  2565  เริ่ม 16.30 น. พาเดินจงกรม    แม่ชีนั่งสมาธิ 1ช.ม. เช่นเดิม  สอบอารมณ์ได้ความว่า "ลดความกลัวสำหรับการมาบวชครั้งนี้  ตอนมาใหม่ยังมีอาการกลัว ๆ  เช่น กลัวสถานที่  เกิดความมั่นใจ สบายใจ ร่างกสยเบาสบาย  ติดใจในการบวช"
+
*เย็น วันที่ 3  มิถุนายน  2565  เริ่ม 16.30 น. พาเดินจงกรม    แม่ชีนั่งสมาธิ 1ช.ม. เช่นเดิม  สอบอารมณ์ได้ความว่า "ลดความกลัวสำหรับการมาบวชครั้งนี้  ตอนมาใหม่ยังมีอาการกลัว ๆ  เช่น กลัวสถานที่  เกิดความมั่นใจ สบายใจ ไม่มีอารมณ์ที่รำคาญ  ร่างกสยเบาสบาย  ติดใจในการบวช"
 +
*เย็น วันที่ 4  มิถุนายน  2565  เริ่ม 16.30 น. พาเดินจงกรม    แม่ชีนั่งสมาธิ 1ช.ม. เช่นเดิม  สอบอารมณ์ได้เช่นวันที่ 3

รุ่นแก้ไขเมื่อ 22:15, 4 มิถุนายน 2565

  • เย็น วันที่ 28 พฤษภาคม 2565 ก่อนทำวัตรฝึกกราบไทย กราบยังไม่ธรรมชาติ เน้นการกราบแบบเคารพตนเอง ศรัทธาตนเอง

หลังทำวัตรเย็น พาสนทนาธรรม 1 ข.ม. โดยมีแม่สุนีย์ สินนุราช และโยมลาน หวังทางมี ร่วมสนทนา แล้วชวนนั่งสมาธิอย่างถูกต้องแบบไทย นั่ง 30 นาที เกิดขาชา ปวดท้อง เพราะมีโรคประจำตัว เกี่ยวกับการผ่าตัดเนื้องอกในมดลูก มาแล้ว 2 ครั้ง การนั่งสมาธิวันนี้ได้สัมผัสความสุขมากขึ้น การกราบหลังสมาธิกราบอย่างเป็นธรรมชาติมากขึ้น กราบออกจากใจ

  • เย็น วันที่ 29 พฤษภาคม 2565 เริ่ม 16.30 น. พาเดินจงกรม 30 นาที พานั่งสมาธิ 1 ช.ม. มีการสลับขา 2 ครั้ง ครั้งแรก 30 นาทีจึงสลับขา สอบอารมณ์ สมาธิดีกว่าวันแรก ไม่มีอาการปวด จิตคิดออกนากบริกรรมสัมมาอรหังบ้าง บ่อย
  • เช้า วันที่ 30 พฤษภาคม 2565 อารมณ์ปลอดโปร่งมาก
  • เย็น วันที่ 30 พฤษภาคม 2565 เริ่ม 16.30 น. ให้เดินจงกรมเองคนเดียว 20 นาที วันนี้นั่งบัลลังก์เดียวรวดเดียว 1 ชั่วโมง ให้เอาผ้าคลุมเข่า สามารถบริกรรมภาวนาสัมมาอะระหังได้ต่อเนื่องทั้ง 1 ช.ม. เลิก 18.00 น. อารมณ์สบายที่สุด ไม่เจ็บปวด เมื่อเอวนิด ๆ เกิดอาการอิ่มทิพย์ ปีติสุข
  • เย็น วันที่ 31 พฤษภาคม 2565 เริ่ม 16.30 น. ให้เดินจงกรมเองคนเดียว 30 นาที วันนี้นั่งบัลลังก์เดียวรวดเดียว 1 ชั่วโมง ให้เอาผ้าคลุมเข่า ถือน้ำดื่มไว้ข้างกาย สามารถบริกรรมภาวนาสัมมาอะระหังได้ต่อเนื่องทั้ง 1 ช.ม. 10 นาที เลิก 18.10 น. อารมณ์สบายที่สุด ไม่เจ็บปวด เมื่อเอวนิด ๆ เกิดอาการอิ่มทิพย์ มีปีติสุขมากกว่าเมื่อวาน
  • เย็น วันที่ 1 มิถุนายน 2565 เริ่ม 16.40 น. ให้เดินจงกรมเองคนเดียว 20 นาที วันนี้นั่งบัลลังก์เดียวรวดเดียว 1 ชั่วโมง ให้เอาผ้าคลุมเข่า ถือน้ำดื่มไว้ข้างกาย สามารถบริกรรมภาวนาสัมมาอะระหังได้ต่อเนื่องทั้ง 1 ช.ม. เลิก 18.00 น. อารมณ์สบายที่สุด ไม่เจ็บปวด ไม่เมื่อย มีความสุขมาก มากขึ้นกว่า
  • เย็น วันที่ 2 มิถุนายน 2565 เริ่ม 16.40 น. พาเดินจงกรม ให้นั่งสมาธิเองคนเดียว ไม่ได้นั่งด้วย แม่ชีสามารถนั่งได้ 1 ช.ม. โดยมีสัญญาณนาฬิกาปลุก
  • เย็น วันที่ 3 มิถุนายน 2565 เริ่ม 16.30 น. พาเดินจงกรม แม่ชีนั่งสมาธิ 1ช.ม. เช่นเดิม สอบอารมณ์ได้ความว่า "ลดความกลัวสำหรับการมาบวชครั้งนี้ ตอนมาใหม่ยังมีอาการกลัว ๆ เช่น กลัวสถานที่ เกิดความมั่นใจ สบายใจ ไม่มีอารมณ์ที่รำคาญ ร่างกสยเบาสบาย ติดใจในการบวช"
  • เย็น วันที่ 4 มิถุนายน 2565 เริ่ม 16.30 น. พาเดินจงกรม แม่ชีนั่งสมาธิ 1ช.ม. เช่นเดิม สอบอารมณ์ได้เช่นวันที่ 3