ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ข้อบังคับสมาคมผู้ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทแห่งประเทศไทย"

จาก wiki.surinsanghasociety
ไปยังการนำทาง ไปยังการค้นหา
(สร้างหน้าด้วย "ข้อบังคับ<br> สมาคมผู้ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทแห่งประเทศไทย<br>...")
 
 
(ไม่แสดง 8 รุ่นระหว่างกลางโดยผู้ใช้คนเดียวกัน)
แถว 1: แถว 1:
ข้อบังคับ<br>
+
==ข้อบังคับ==
 
สมาคมผู้ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทแห่งประเทศไทย<br>
 
สมาคมผู้ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทแห่งประเทศไทย<br>
 
พ.ศ. ๒๕๖๕<br>
 
พ.ศ. ๒๕๖๕<br>
 
   
 
   
 
 
โดยที่มีคำปณิธานของผู้เข้าอบรมหลักสูตรผู้ไกล่เกลี่ยข้อพิพาท ว่า "ข้าพเจ้าขอตั้งสัจจะอธิษฐานว่า ข้าพเจ้าขอบำเพ็ญสันติบารมี พัฒนาชีวีให้รู้ตื่นและเบิกบาน ร่วมประสานมนุษย์และสังคม ให้อุดมด้วยสันติสุข ในทุกลมหายใจ ตลอดไปเทอญ"  และสังคมไทยมีความตัองการผู้ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทจำนวนมาก มีคุณภาพ จึงเป็นการสมควรจัดตั้งสมาคมผู้ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทแห่งประเทศไทย ให้มีความเหมาะสม สอดคล้องกับสภาพปัจจุบัน<br>
 
โดยที่มีคำปณิธานของผู้เข้าอบรมหลักสูตรผู้ไกล่เกลี่ยข้อพิพาท ว่า "ข้าพเจ้าขอตั้งสัจจะอธิษฐานว่า ข้าพเจ้าขอบำเพ็ญสันติบารมี พัฒนาชีวีให้รู้ตื่นและเบิกบาน ร่วมประสานมนุษย์และสังคม ให้อุดมด้วยสันติสุข ในทุกลมหายใจ ตลอดไปเทอญ"  และสังคมไทยมีความตัองการผู้ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทจำนวนมาก มีคุณภาพ จึงเป็นการสมควรจัดตั้งสมาคมผู้ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทแห่งประเทศไทย ให้มีความเหมาะสม สอดคล้องกับสภาพปัจจุบัน<br>
  
แถว 14: แถว 13:
 
ข้อ  ๒.  ให้ใช้ข้อบังคับนี้ตั้งแต่วันที่นายทะเบียนได้รับจดทะเบียนเป็นต้นไป<br>
 
ข้อ  ๒.  ให้ใช้ข้อบังคับนี้ตั้งแต่วันที่นายทะเบียนได้รับจดทะเบียนเป็นต้นไป<br>
  
ข้อ  ๓. ให้....<br>
+
ข้อ  ๓.  ข้อบังคับนี้ระบุความหมายไว้ดังนี้<br>
 
 
ข้อ  ๔.  ข้อบังคับนี้ระบุความหมายไว้ดังนี้<br>
 
  
                                “สมาคม” หมายความถึง สมาคมนิสมาคมผู้ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทแห่งประเทศไทย<br>
+
“สมาคม” หมายความถึง สมาคมผู้ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทแห่งประเทศไทย<br>
  
                                “สมาชิก” หมายความถึง สมาชิกสมาคมผู้ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทแห่งประเทศไทย  ทุกประเภท<br>
+
“สมาชิก” หมายความถึง สมาชิกสมาคมผู้ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทแห่งประเทศไทย  ทุกประเภท<br>
  
                                “คณะกรรมการสมาคม” หมายความถึง คณะกรรมการสมาคมผู้ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทแห่งประเทศไทย<br>
+
“คณะกรรมการสมาคม” หมายความถึง คณะกรรมการสมาคมผู้ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทแห่งประเทศไทย<br>
  
 
==หมวดที่ ๒==
 
==หมวดที่ ๒==
  
ชื่อ เครื่องหมายและสถานที่ตั้งสมาคม
+
ชื่อ เครื่องหมายและสถานที่ตั้งสมาคม<br>
  
                ข้อ  . สมาคมนี้มีชื่อว่า “สมาคมนิสิตเก่าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์”   เรียกโดยย่อว่า “สนจ.” โดยเรียกเป็นภาษาอังกฤษว่า “CHULALONGKORN UNIVERSITY ALUMNI ASSOCIATION UNDER THE ROYAL PATRONAGE OF HIS MAJESTY THE KING” มีอักษรย่อว่า “CUAA”
+
ข้อ  . สมาคมนี้มีชื่อว่า “สมาคมผู้ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทแห่งประเทศไทย”   เรียกโดยย่อว่า “................” โดยเรียกเป็นภาษาอังกฤษว่า “...................................” มีอักษรย่อว่า “...........”<br>
  
                ข้อ  เครื่องหมายของสมาคมทำด้วยโลหะสีทอง เป็นเข็มหรือดุมวงกลม ภายในรูปวงกลม      มีตราพระเกี้ยวสีทอง ส่วนพื้นรองรับพระเกี้ยวเป็นสีชมพู มีชื่อของสมาคมเป็นสีทองรอบวงกลม เครื่องหมายของสมาคมนี้จักปักด้วยไหมหรือดิ้นสำหรับประดับเครื่องแต่งกายของสมาชิกโดยขยายส่วนต่างๆ             ของเครื่องหมายให้เหมาะสมกันแล้วย่อมทำได้ ทั้งนี้ต้องให้เป็นไปตามแบบที่สมาคมกำหนดไว้ด้วย
+
ข้อ  เครื่องหมายของสมาคมทำด้วย............. เป็นเข็มหรือ............... ภายในรูปวงกลม      มีรูปภาพ........... ส่วนพื้นรอง...............เป็นสี......... มีชื่อของสมาคมเป็นสี...........รอบวงกลม เครื่องหมายของสมาคมนี้สำหรับประดับเครื่องแต่งกายของสมาชิกโดยขยายส่วนต่างๆ             ของเครื่องหมายให้เหมาะสมกันแล้วย่อมทำได้ ทั้งนี้ต้องให้เป็นไปตามแบบที่สมาคมกำหนดไว้ด้วย<br>
  
                ข้อ  . สำนักงานของสมาคมตั้งอยู่ ณ บริเวณที่ตั้งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
+
ข้อ  . สำนักงานของสมาคมตั้งอยู่ ณ บริเวณที่ตั้งมหาวิทยาลัย มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย  อำเภอวังน้อย  จังหวัดนครศรีอยุธยา<br>
  
 
==หมวดที่ ๓==
 
==หมวดที่ ๓==
  
วัตถุประสงค์
+
วัตถุประสงค์<br>
  
                ข้อ  .  สมาคมมีวัตถุประสงค์ ดังต่อไปนี้
+
ข้อ  .  สมาคมมีวัตถุประสงค์ ดังต่อไปนี้<br>
  
๑.เพื่อส่งเสริมขับเคลื่อนให้ผู้ไกล่เกลี่ยมีวัฒนธรรมการทำงานเป็นเครือข่ายทุกระดับ คือ ระดับประเทศ ระดับภาค ระดับเขต ระดับจังหวัด ระดับอำเภอ และระดับตำบล<br>
+
๑.เพื่อส่งเสริมขับเคลื่อนให้ผู้ไกล่เกลี่ยข้อพิพาท ดำรงวัฒนธรรมการทำงานเป็นเครือข่ายทุกระดับ คือ ระดับประเทศ ระดับภาค ระดับเขต ระดับจังหวัด ระดับอำเภอ และระดับตำบล<br>
๒.เพื่อส่งเสริมการดำเนินการของศูนย์ไกล่เกลี่ยภาคประชาชนเกิดความเข้มแข็ง ยั่งยืน เป็นความหวังของชุมชน<br>
+
๒.เพื่อส่งเสริมการดำเนินการของศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทภาคประชาชนเกิดความเข้มแข็ง ยั่งยืน เป็นความหวังของชุมชน<br>
๓.เพื่อน้อมนำคิดทางปรัชญา ศาสนา สันติภาพ สันติวิธี ให้ผู้ไกล่เกลี่ยได้เรียนรู้ ฝึกฝน ปฏิบัติการสู่วิชาชีพชำนาญการ ชำนาญการพิเศษ<br>
+
๓.เพื่อน้อมนำแนวคิดทางปรัชญา ศาสนา สันติภาพ สันติวิธี ให้ผู้ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทได้เรียนรู้ ฝึกฝน ปฏิบัติการสู่วิชาชีพชำนาญการ ชำนาญการพิเศษ<br>
๔.เพื่อส่งเสริม เสริมแรง สนับสนุนให้ผู้ไกล่เกลี่ยเกิดขวัญกำลังใจ สวัสดิการ ในการปฏิบัติหน้าที่อย่างราบรื่นเกิดสันติภาพจากภายใน<br>
+
๔.เพื่อส่งเสริม เสริมแรง สนับสนุนให้ผู้ไกล่เกลี่ยข้อพิพาท หรือคณะทำงานศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาท เกิดขวัญกำลังใจ  มีสวัสดิการ ในการปฏิบัติหน้าที่อย่างราบรื่นเกิดสันติภาพจากภายใน<br>
 
๕.เพื่อสนับสนุนสร้างสังคมไทยขับเคลื่อนความยุติธรรมผ่านกลไกการไกล่เกลี่ยทางเลือกที่ให้ความสำคัญต่อสันติสุขของสังคม ชุมชน หมู่คน ที่เริ่มต้นจากสันติภายในของผู้คนที่มีความขัดแย้งกัน<br>
 
๕.เพื่อสนับสนุนสร้างสังคมไทยขับเคลื่อนความยุติธรรมผ่านกลไกการไกล่เกลี่ยทางเลือกที่ให้ความสำคัญต่อสันติสุขของสังคม ชุมชน หมู่คน ที่เริ่มต้นจากสันติภายในของผู้คนที่มีความขัดแย้งกัน<br>
 
+
๖. เพื่อบำเพ็ญสาธารณประโยชน์    สมาคมนี้ไม่มีวัตถุประสงค์เกี่ยวข้องกับการเมือง<br>
          ๖. บำเพ็ญสาธารณประโยชน์
 
 
 
                                สมาคมนี้ไม่มีวัตถุประสงค์เกี่ยวข้องกับการเมือง
 
  
 
==หมวดที่ ๔==
 
==หมวดที่ ๔==
  
ประเภท คุณสมบัติ การสมัครเข้าเป็นสมาชิก ค่าบำรุงและการขาดจากสมาชิกภาพ
+
ประเภท คุณสมบัติ การสมัครเข้าเป็นสมาชิก ค่าบำรุงและการขาดจากสมาชิกภาพ<br>
  
                ข้อ  .  สมาชิกแบ่งออกเป็น  ๓  ประเภท คือ
+
ข้อ  .  สมาชิกแบ่งออกเป็น  ๓  ประเภท คือ<br>
  
                                ๑. สมาชิกสามัญ
+
๑. สมาชิกสามัญ คือ ผู้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นผู้ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทตามกฎหมาย<br>
  
                                ๒. สมาชิกกิตติมศักดิ์
+
๒. สมาชิกกิตติมศักดิ์<br>
  
                                ๓. สมาชิกวิสามัญ
+
๓. สมาชิกวิสามัญ คือ ผู้สนับสนุน หนุนเสริม เสริมแรง สมาคมให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์สมาคม<br>
  
                ข้อ ๑๐. สมาชิกสมาคมตามข้อ ต้องมีคุณสมบัติข้อใดข้อหนึ่งดังต่อไปนี้
+
ข้อ . สมาชิกสมาคมตามข้อ ต้องมีคุณสมบัติข้อใดข้อหนึ่งดังต่อไปนี้<br>
  
                                ๑. ดำรงตำแหน่ง หรือเคยดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการสภามหาวิทยาลัย ผู้บริหารมหาวิทยาลัย และคณาจารย์ประจำของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
+
๑.เป็นผู้มีชื่อในทะเบียนผู้ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทในขณะนั้น<br>
 +
๒.ผู้ที่ผ่านการอบรมหลักสูตรผู้ไกล่เกลี่ยข้อพิพาท ที่กระทรวงยุติธรรมให้การรับรอง <br>
 +
๓.ผู้ที่ผ่านการอบรมหรือผ่านการศึกษา ตามหลักสูตรสันติวิธี หรือหลักสูตรผู้ไกล่เกลี่ยข้อพิพาท ตามที่มหาวิทยาลัย มหาจุฬาลงกรราชวิทยาลัย จัดขึ้น<br>
 +
๔. ผู้ที่ผ่านการอบรมหลักสูตรใดที่สมาคมนี้เห็นชอบ<br>
 +
๕. ผู้อุทิศตนช่วยงานประจำศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทภาคประชาชน<br>
 +
๖. ผู้อุทิศตนด้านการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท  หรือที่ได้รับการยกย่องในแวดวงการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท<br>
  
                                ๒. เคยเป็นนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
+
และไม่มีพฤติกรรมที่แสดงให้เห็นอย่างชัดแจ้งว่าขัดต่อวัตถุประสงค์ของสมาคมตามข้อ ๗ และสมาชิกต้องไม่มีลักษณะต้องห้ามดังต่อไปนี้<br>
  
                                ๓. ศาสตราจารย์กิตติคุณ ศาสตราจารย์พิเศษและผู้ซึ่งได้รับปริญญากิตติมศักดิ์ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
+
(ก) เคยได้รับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก และพ้นโทษมาไม่เกิน ๒ ปี เว้นแต่เป็นโทษสำหรับความผิดที่ได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ<br>
  
                                และไม่มีพฤติกรรมที่แสดงให้เห็นอย่างชัดแจ้งว่าขัดต่อวัตถุประสงค์ของสมาคมตามข้อ ๘ และสมาชิกต้องไม่มีลักษณะต้องห้ามดังต่อไปนี้
+
(ข) เคยถูกไล่ออก ปลดออก หรือให้ออกจากงานเพราะทุจริตต่อหน้าที่<br>
  
(ก) เคยได้รับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก และพ้นโทษมาไม่เกิน ๒ ปี เว้นแต่เป็นโทษสำหรับความผิดที่ได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ
+
ข้อ ๑๐. สมาชิกกิตติมศักดิ์ ได้แก่บุคคลที่อุปการะช่วยเหลือทำคุณประโยชน์แก่สมาคมหรือผู้มีเกียรติที่คณะกรรมการสมาคมมีมติด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่า ๓ ใน ๔ ของจำนวนกรรมการสมาคมที่มาประชุมและออกเสียงลงคะแนนให้เชิญเป็นสมาชิกของสมาคม<br>
  
(ข) เคยถูกไล่ออก ปลดออก หรือให้ออกจากงานเพราะทุจริตต่อหน้าที่
+
ข้อ ๑๑. ผู้สมัครเป็นสมาชิกสามัญหรือสมาชิกวิสามัญต้องแสดงความจำนงเข้าเป็นสมาชิกตามแบบที่สมาคมกำหนด และให้นายทะเบียนสมาคมนำเสนอรายชื่อและข้อมูลผู้สมัครต่อที่ประชุมคณะกรรมการสมาคมเพื่อพิจารณามีมติรับเป็นสมาชิก<br>
  
                ข้อ ๑๑. สมาชิกกิตติมศักดิ์ ได้แก่บุคคลที่อุปการะช่วยเหลือทำคุณประโยชน์แก่สมาคมหรือผู้มีเกียรติที่คณะกรรมการอำนวยการสมาคมมีมติด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่า ๓ ใน ๔ ของจำนวนกรรมการอำนวยการสมาคมที่มาประชุมและออกเสียงลงคะแนนให้เชิญเป็นสมาชิกของสมาคม
+
เมื่อคณะกรรมการสมาคมมีมติรับเป็นสมาชิกแล้ว ผู้สมัครจะมีสถานะเป็นสมาชิกโดยสมบูรณ์ตั้งแต่วันที่นายทะเบียนสมาคมได้จดแจ้งชื่อในทะเบียนสมาชิก<br>
  
                  ข้อ ๑๒. ผู้สมัครเป็นสมาชิกสามัญหรือสมาชิกวิสามัญต้องแสดงความจำนงเข้าเป็นสมาชิกตามแบบที่สมาคมกำหนด และให้นายทะเบียนสมาคมนำเสนอรายชื่อและข้อมูลผู้สมัครต่อที่ประชุมคณะกรรมการอำนวยการสมาคมเพื่อพิจารณามีมติรับเป็นสมาชิก
+
ข้อ ๑๑. สมาชิกสามัญ และสมาชิกวิสามัญ จะต้องชำระค่าบำรุงสมาคมรายปี  ปีละ  ๕๐๐ บาท หรือ  ตามจำนวนที่คณะกรรมการสมาคมมีมติเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสม<br>
 +
ข้อ ๑๒. สมาชิกสมาคม หรือบุคคลทั่วไป สามารถบริจาคเงินให้เป็นทุนนิธิของสมาคมได้<br>
 +
เงินค่าบำรุงสมาคมหรือทุนนิธิของสมาคมนี้ ให้คณะกรรมการสมาคมจัดซื้อพันธบัตรรัฐบาลหรือพันธบัตรรัฐวิสาหกิจ หรือฝากธนาคารพาณิชย์ หรือธนาคารเฉพาะกิจของรัฐ หรือตั๋วเงินที่รับรองหรืออาวัล โดยธนาคารพาณิชย์ที่ได้ผลประโยชน์มากกว่าผลประโยชน์พันธบัตรรัฐบาล ทั้งนี้ คณะกรรมการสมาคมสามารถนำเฉพาะแต่ผลประโยชน์ของเงินค่าบำรุงสมาคมดังกล่าว มาใช้ในกิจกรรมของสมาคมได้<br>
  
                                  เมื่อคณะกรรมการอำนวยการสมาคมมีมติรับเป็นสมาชิกแล้ว ผู้สมัครจะมีสถานะเป็นสมาชิกโดยสมบูรณ์ตั้งแต่วันที่นายทะเบียนสมาคมได้จดแจ้งชื่อในทะเบียนสมาชิก
+
ข้อ ๑๓. ให้เลขาธิการสมาคมนำชื่อสมาชิกกิตติมศักดิ์ ประกาศให้สมาชิกทั่วไปทราบ<br>
  
                ข้อ ๑๓. สมาชิกวิสามัญ จะต้องชำระค่าบำรุงสมาคมครั้งเดียวเป็นเงิน ๑,๐๐๐ บาท หรือ      ตามจำนวนที่คณะกรรมการอำนวยการสมาคมมีมติเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสม
+
ข้อ ๑๔. สมาชิกภาพของสมาชิกย่อมเริ่มตั้งแต่วันที่สมาคมลงชื่อในทะเบียน<br>
  
                                  เงินค่าบำรุงสมาคมนี้ ให้คณะกรรมการอำนวยการสมาคมจัดซื้อพันธบัตรรัฐบาลหรือพันธบัตรรัฐวิสาหกิจ หรือฝากธนาคารพาณิชย์ หรือธนาคารเฉพาะกิจของรัฐ หรือตั๋วเงินที่รับรองหรืออาวัล โดยธนาคารพาณิชย์ที่ได้ผลประโยชน์มากกว่าผลประโยชน์พันธบัตรรัฐบาล ทั้งนี้ คณะกรรมการอำนวยการสมาคมสามารถนำเฉพาะแต่ผลประโยชน์ของเงินค่าบำรุงสมาคมดังกล่าว มาใช้ในกิจกรรมของสมาคมได้
+
ข้อ ๑๕. สมาชิกภาพของสมาชิกย่อมสิ้นสุดลงเมื่อ<br>
  
                ข้อ ๑๔. ให้เลขาธิการนำชื่อสมาชิกกิตติมศักดิ์ ประกาศให้สมาชิกทั่วไปทราบ
+
. ตาย<br>
 +
๒. มีความประพฤติไม่เหมาะสม ทำความเสื่อมเสียอย่างร้ายแรงต่อจริยธรรมผู้ไกล่เกลี่ย<br>
 +
๓. ลาออก<br>
 +
๔. ขาดคุณสมบัติข้อใดข้อหนึ่งหรือมีลักษณะต้องห้ามตามข้อ ๙.<br>
 +
๕. ละเมิดระเบียบ หรือข้อบังคับของสมาคมโดยเจตนา ซึ่งเมื่อได้รับคำตักเตือนจากคณะกรรมการสมาคมแล้ว ผู้นั้นยังกระทำอยู่<br>
  
                ข้อ ๑๕. สมาชิกภาพของสมาชิกย่อมเริ่มตั้งแต่วันที่สมาคมลงชื่อในทะเบียน
+
การขาดจากสมาชิกภาพตามข้อ ๑๕.๒    และข้อ ๑๕.๕  ให้คณะกรรมการสมาคมเป็นผู้พิจารณามีมติด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่า ๓ ใน ๔ ของจำนวนกรรมการสมาคมที่มาประชุมและออกเสียงลงคะแนนให้สมาชิกภาพสิ้นสุด<br>
  
                  ข้อ ๑๖. สมาชิกภาพของสมาชิกย่อมสิ้นสุดลงเมื่อ
+
สมาชิกที่สิ้นสุดสมาชิกภาพตามข้อ ๑๕.๒ ข้อ ๑๕.๓ ข้อ ๑๕.๕       มีสิทธิ์ยื่นคำขอแสดงความจำนงเข้าเป็นสมาชิกได้อีกเมื่อพ้นกำหนด ๑ ปี นับแต่วันที่สิ้นสุดจากการเป็นสมาชิกภาพ และหากคณะกรรมการสมาคมได้พิจารณาคำขอและไม่ยอมรับผู้นั้นเข้าเป็นสมาชิกแล้ว ผู้นั้นอาจยื่นคำขอได้อีกเพียงครั้งเดียวเมื่อพ้นกำหนด ๑ ปี นับแต่วันที่คณะกรรมการสมาคมมีมติไม่ยอมรับเป็นสมาชิก<br>
 
 
                                ๑. ตาย
 
 
 
                                ๒. มีความประพฤติไม่เหมาะสม
 
 
 
                                ๓. ลาออก
 
 
 
                                  ๔. ขาดคุณสมบัติข้อใดข้อหนึ่งหรือมีลักษณะต้องห้ามตามข้อ ๑๐.
 
 
 
                                ๕. ละเมิดระเบียบ หรือข้อบังคับของสมาคมโดยเจตนา ซึ่งเมื่อได้รับคำตักเตือนจากคณะกรรมการอำนวยการสมาคมแล้ว ผู้นั้นยังกระทำอยู่
 
 
 
                                  การขาดจากสมาชิกภาพตามข้อ ๑๖.๒ และข้อ ๑๖.๕  ให้คณะกรรมการอำนวยการสมาคมเป็นผู้พิจารณามีมติด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่า ๓ ใน ๔ ของจำนวนกรรมการอำนวยการสมาคมที่มาประชุมและออกเสียงลงคะแนนให้สมาชิกภาพสิ้นสุด
 
 
 
                                สมาชิกที่สิ้นสุดสมาชิกภาพตามข้อ ๑๖.๒ ข้อ ๑๖.๓ ข้อ ๑๖.๕ ข้อ ๑๐ (ก) นั้น      มีสิทธิ์ยื่นคำขอแสดงความจำนงเข้าเป็นสมาชิกได้อีกเมื่อพ้นกำหนด ๑ ปี นับแต่วันที่สิ้นสุดจากการเป็นสมาชิกภาพ และหากคณะกรรมการอำนวยการสมาคมได้พิจารณาคำขอและไม่ยอมรับผู้นั้นเข้าเป็นสมาชิกแล้ว ผู้นั้นอาจยื่นคำขอได้อีกเพียงครั้งเดียวเมื่อพ้นกำหนด ๑ ปี นับแต่วันที่คณะกรรมการอำนวยการสมาคมมีมติไม่ยอมรับเป็นสมาชิก
 
  
 
==หมวดที่  ๕==
 
==หมวดที่  ๕==
  
สิทธิ์และหน้าที่ของสมาชิก
+
สิทธิ์และหน้าที่ของสมาชิก<br>
 
 
                ข้อ ๑๗. สมาชิกสามัญและสมาชิกวิสามัญ จะได้รับสิทธิ์และประโยชน์จากสมาคม ดังต่อไปนี้
 
 
 
                                ๑. บริหารกิจการของสมาคม ในฐานะเป็นผู้คัดเลือกกรรมการอำนวยการสมาคมโดยวิธีการเลือกตั้งตามที่ได้รับการสรรหา
 
  
                                ๒. มีสิทธิ์ใช้ประโยชน์ในสถานที่ของสมาคมและสโมสร เพื่อการกีฬา การบันเทิง และอื่นๆ โดยต้องอยู่ภายในขอบเขตวัตถุประสงค์และเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่สมาคมกำหนด
+
ข้อ ๑๖. สมาชิกสามัญและสมาชิกวิสามัญ จะได้รับสิทธิ์และประโยชน์จากสมาคม ดังต่อไปนี้<br>
  
                                ๓. ได้รับข่าวสารตามที่สมาคมได้จัดทำขึ้น
+
. บริหารกิจการของสมาคม ในฐานะเป็นผู้คัดเลือกกรรมการสมาคม<br>
  
                                ๔. ประโยชน์อื่นใดที่สมาคมกำหนด
+
. มีสิทธิ์ใช้ประโยชน์ในสถานที่ของสมาคม  และอื่นๆ โดยต้องอยู่ภายในขอบเขตวัตถุประสงค์และเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่สมาคมกำหนด<br>
  
                ข้อ ๑๘. สมาชิกกิตติมศักดิ์ของสมาคม ได้รับสิทธิ์และประโยชน์จากสมาคมเช่นเดียวกับสมาชิกสามัญและสมาชิกวิสามัญเว้นแต่สิทธิ์ตาม ข้อ ๑๗.๑ และ ข้อ ๑๗.๓ และสิทธิ์และประโยชน์อื่นๆ ตามที่คณะกรรมการอำนวยการสมาคมจะได้กำหนดขึ้น
+
. ได้รับข่าวสารตามที่สมาคมได้จัดทำขึ้น<br>
  
                ข้อ ๑๙. สมาชิกวิสามัญมีสิทธิ์ร้องขอต่อคณะกรรมการอำนวยการสมาคม เพื่อตรวจตราเอกสารบัญชีทรัพย์สินของสมาคมได้ในเวลาอันสมควร
+
. ประโยชน์อื่นใดที่สมาคมกำหนด<br>
  
                ข้อ ๒๐. สมาชิกสามัญและสมาชิกวิสามัญย่อมมีสิทธิ์เข้าประชุมใหญ่ และมีสิทธิ์ออกเสียงลงคะแนนได้คนละหนึ่งคะแนน การออกเสียงลงคะแนนเป็นสิทธิ์เฉพาะตัวจะแต่งตั้งตัวแทนไม่ได้
+
ข้อ ๑๗. สมาชิกกิตติมศักดิ์ของสมาคม ได้รับสิทธิ์และประโยชน์จากสมาคมเช่นเดียวกับสมาชิกสามัญและสมาชิกวิสามัญเว้นแต่สิทธิ์ตาม ข้อ ๑๖.๑ และ ข้อ ๑๖.๓ และสิทธิ์และประโยชน์อื่นๆ ตามที่คณะกรรมการสมาคมจะได้กำหนดขึ้น<br>
  
                ข้อ ๒๑. สมาชิกสามัญและสมาชิกวิสามัญจำนวนรวมกันตั้งแต่ ๑๐๐ คนขึ้นไป มีสิทธิ์ทำหนังสือร้องขอให้คณะกรรมการอำนวยการสมาคมเรียกประชุมวิสามัญได้ โดยต้องระบุถึงความประสงค์และวาระ      ที่ต้องการขอจัดให้มีการประชุมไว้ให้ชัดเจนในหนังสือดังกล่าวด้วย 
+
ข้อ ๑๘. สมาชิกวิสามัญมีสิทธิ์ร้องขอต่อคณะกรรมการสมาคม เพื่อตรวจตราเอกสารบัญชีทรัพย์สินของสมาคมได้ในเวลาอันสมควร<br>
  
                                  ให้คณะกรรมการอำนวยการสมาคมจัดการประชุมใหญ่วิสามัญภายในเวลา ๖๐ วัน นับแต่รับหนังสือร้องขอตามวรรคแรก คณะกรรมการอำนวยการสมาคมจะปฏิเสธการจัดประชุมวิสามัญตามที่สมาชิกร้องขอก็ได้ หากเป็นกรณีใดกรณีหนึ่งดังต่อไปนี้
+
ข้อ ๑๙. สมาชิกสามัญและสมาชิกวิสามัญย่อมมีสิทธิ์เข้าประชุมใหญ่ และมีสิทธิ์ออกเสียงลงคะแนนได้คนละหนึ่งคะแนน การออกเสียงลงคะแนนเป็นสิทธิ์เฉพาะตัวจะแต่งตั้งตัวแทนไม่ได้<br>
  
. เป็นเรื่องที่ไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดในวรรคหนึ่ง
+
ข้อ ๒๐. สมาชิกสามัญและสมาชิกวิสามัญจำนวนรวมกันตั้งแต่ ๕๐ คนขึ้นไป มีสิทธิ์ทำหนังสือร้องขอให้คณะกรรมการสมาคมเรียกประชุมวิสามัญได้ โดยต้องระบุถึงความประสงค์และวาระ      ที่ต้องการขอจัดให้มีการประชุมไว้ให้ชัดเจนในหนังสือดังกล่าวด้วย  <br>
  
๒. เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับการดำเนินงานปกติของสมาคม และข้อเท็จจริงที่กล่าวอ้างโดยสมาชิกมิได้แสดงถึงเหตุอันควรสงสัยเกี่ยวกับการดำเนินงานดังกล่าว
+
ให้คณะกรรมการสมาคมจัดการประชุมใหญ่วิสามัญภายในเวลา ๖๐ วัน นับแต่รับหนังสือร้องขอตามวรรคแรก คณะกรรมการสมาคมจะปฏิเสธการจัดประชุมวิสามัญตามที่สมาชิกร้องขอก็ได้ หากเป็นกรณีใดกรณีหนึ่งดังต่อไปนี้<br>
  
. เป็นเรื่องที่อยู่นอกเหนืออำนาจที่สมาคมจะดำเนินการให้เกิดผลตามที่สมาชิกประสงค์
+
. เป็นเรื่องที่ไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดในวรรคหนึ่ง<br>
  
.เป็นเรื่องที่สมาชิกได้เคยเสนอต่อที่ประชุมใหญ่เพื่อพิจารณาแล้วในรอบสิบสองเดือนที่ผ่านมา และเรื่องดังกล่าวได้รับมติสนับสนุนด้วยคะแนนเสียงน้อยกว่าร้อยละสิบของจำนวนสมาชิกที่มีสิทธิ์ออกเสียงทั้งหมดของสมาคม เว้นแต่ข้อเท็จจริงในการร้องขอครั้งใหม่จะได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมีนัยสำคัญจากข้อเท็จจริงในขณะที่นำเสนอต่อที่ประชุมใหญ่ในครั้งก่อน
+
. เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับการดำเนินงานปกติของสมาคม และข้อเท็จจริงที่กล่าวอ้างโดยสมาชิกมิได้แสดงถึงเหตุอันควรสงสัยเกี่ยวกับการดำเนินงานดังกล่าว<br>
  
. กรณีอื่นใดตามที่คณะกรรมการอำนวยการสมาคมเห็นเป็นการสมควร
+
. เป็นเรื่องที่อยู่นอกเหนืออำนาจที่สมาคมจะดำเนินการให้เกิดผลตามที่สมาชิกประสงค์<br>
  
                                            ให้นำความในข้อ  ๓๘  และข้อ ๓๙  มาใช้บังคับโดยอนุโลม เว้นแต่อาจพิจารณาในการประชุมใหญ่สามัญประจำปีได้ในกำหนดเวลาดังกล่าว
+
๔. กรณีอื่นใดตามที่คณะกรรมการสมาคมเห็นเป็นการสมควร<br>
  
                      ข้อ ๒๒. สมาชิกมีสิทธิ์ที่จะนำญาติมิตรมาในงานรื่นเริงของสมาคม หรือเยี่ยมเยือนสมาคมเป็นครั้งคราวได้โดยสมาชิกผู้นั้นต้องรับผิดชอบสำหรับบุคคลที่ตนนำมา และต้องระมัดระวังที่จะไม่ก่อให้เกิดความรำคาญและเป็นที่รังเกียจแก่สมาชิกอื่นๆ
 
  
                      ข้อ ๒๓. สมาชิกมีสิทธิ์ที่จะเสนอความเห็นเกี่ยวกับกิจการของสมาคมต่อคณะกรรมการอำนวยการสมาคมได้
+
ข้อ ๒๑. สมาชิกมีสิทธิ์ที่จะเสนอความเห็นเกี่ยวกับกิจการของสมาคมต่อคณะกรรมการสมาคมได้<br>
  
                      ข้อ ๒๔. สมาชิกมีสิทธิ์ประดับเครื่องหมายสมาคมได้ตามระเบียบ
+
ข้อ ๒๒. สมาชิกมีสิทธิ์ประดับเครื่องหมายสมาคมได้ตามระเบียบ<br>
  
ข้อ ๒๔/๑ สมาชิกมีหน้าที่ดังต่อไปนี้คือ
+
ข้อ ๒๓ สมาชิกมีหน้าที่ดังต่อไปนี้คือ<br>
  
๑. ปฏิบัติตามข้อบังคับและระเบียบของสมาคม
+
๑. ปฏิบัติตามข้อบังคับและระเบียบของสมาคม<br>
  
๒. ต้องรักษาคุณธรรม ความดีงาม และไม่ประพฤติเสื่อมเสีย
+
๒. ต้องรักษาคุณธรรม ความดีงาม และไม่ประพฤติเสื่อมเสีย<br>
  
๓. ช่วยส่งเสริม ร่วมมือ และสนับสนุนในกิจการของสมาคม
+
๓. ช่วยส่งเสริม ร่วมมือ และสนับสนุนในกิจการของสมาคม<br>
  
 
==หมวดที่ ๖==
 
==หมวดที่ ๖==
  
คณะกรรมการอำนวยการสมาคมและการพ้นจากตำแหน่ง
+
คณะกรรมการสมาคมและการพ้นจากตำแหน่ง<br>
  
                ข้อ ๒๕คณะกรรมการอำนวยการสมาคม มีจำนวนทั้งหมดไม่เกิน ๖๕ คน มีอำนาจหน้าที่ดำเนินงานของสมาคมตามขอบเขต วัตถุประสงค์และระเบียบของสมาคม
+
ข้อ ๒๔คณะกรรมการสมาคม มีจำนวนทั้งหมดไม่เกิน ๕๕ คน มีอำนาจหน้าที่ดำเนินงานของสมาคมตามขอบเขต วัตถุประสงค์และระเบียบของสมาคม<br>
  
                                ผู้ที่จะเป็นกรรมการอำนวยการสมาคมประกอบด้วยบุคคลดังต่อไปนี้
+
ผู้ที่จะเป็นกรรมการสมาคมประกอบด้วยบุคคลดังต่อไปนี้<br>
  
                                    ๑. สมาชิกวิสามัญที่ได้รับเลือกตั้ง จำนวนไม่เกิน ๑๕ คน ตามข้อ ๒๗
+
๑. สมาชิกวิสามัญที่ได้รับเลือกตั้ง จำนวนไม่เกิน ๑๐ คน ตามข้อ ............<br>
  
          ๒. นายกสมาคมนิสิตเก่าของคณะหรือเทียบเท่าคณะในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พร้อมทั้งนายกสมาคมนิสิตเก่าหอพักจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย[1]
+
๒. คณะกรรมการรุ่น ที่ผ่านการอบรมผู้ไกล่เกลี่ยข้อพิพาท  <br>
  
                              ๓. สมาชิกวิสามัญที่ได้รับแต่งตั้งจากนายกสมาคมตามข้อ ๒๙
+
๓. ประธานผู้ไกล่เกลี่ยภูมิภาค ๖ ภาค ได้แก่ ภาคเหนือ ภาคกลาง  ภาคตะวันออก ภาคตะวันตก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้<br>
 
+
   
                                ๔. ประธานนิสิตเก่าภูมิภาค ๕ ภาค ได้แก่ ภาคเหนือ ภาคกลาง  ภาคตะวันออก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้
+
ข้อ ๒๕. กรรมการสมาคมชุดหนึ่ง ๆ อยู่ในตำแหน่งคราวละ ๔ ปี   <br>
 
+
หากตำแหน่งนายกสมาคมว่างลง ให้ดำเนินการสรรหาจากกรรมการสมาคมชุดนั้น และให้ดำรงตำแหน่งตามวาระที่เหลืออยู่ <br>
                ข้อ  ๒๖. ให้สมาชิกวิสามัญเป็นผู้คัดเลือกคณะกรรมการสรรหา จำนวน ๗ คน โดยวิธีการเลือกตั้งในที่ประชุมสมาชิกวิสามัญ ซึ่งกรรมการสรรหาต้องมีคุณสมบัติ ดังต่อไปนี้
+
ในการดำรงตำแหน่งนายกสมาคม มิให้ติดต่อกันเกินกว่า ๒ วาระ<br>
 
 
๑. เป็นผู้เคยดำรงตำแหน่งนายกสมาคมหรืออุปนายก หรือเลขาธิการสมาคม หรือ  ผู้เป็นหรือเคยเป็นกรรมการสภามหาวิทยาลัย อธิการบดี รองอธิการบดีหรือคณบดีในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หรือสมาชิกกิตติมศักดิ์ หรือสมาชิกผู้อุปการะช่วยเหลือทำคุณประโยชน์แก่สมาคมอย่างยิ่ง หรือผู้ได้รับปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
 
 
 
                              ๒. ต้องมิใช่ผู้ดำรงตำแหน่งกรรมการอำนวยการสมาคมหรือนายกสมาคมในขณะคัดเลือกกรรมการสรรหา
 
 
 
                              ให้คณะกรรมการอำนวยการสมาคมจัดการประชุมสมาชิกวิสามัญเพื่อทำการเลือกตั้งกรรมการสรรหา
 
 
 
                                    ให้กรรมการสรรหากำหนดคุณสมบัติของบุคคลที่เป็นสมาชิกวิสามัญที่จะได้รับการเลือกตั้งเป็นกรรมการอำนวยการสมาคมซึ่งต้องมีสถานะเป็นสมาชิกวิสามัญเป็นเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่า ๒ ปีนับถึงวันเลือกตั้ง โดยให้กรรมการสรรหามีหน้าที่สรรหาบุคคลดังกล่าวจากผู้เป็นสมาชิกวิสามัญจำนวนไม่น้อยกว่า ๒ เท่าของจำนวนผู้มีสิทธิ์ได้รับเลือกตั้งเป็นกรรมการอำนวยการสมาคมตามข้อ ๒๕.๑ เพื่อให้สมาชิกเลือกตั้งเป็นกรรมการอำนวยการสมาคมตามข้อ ๒๗ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการสรรหาที่คณะกรรมการสรรหากำหนด โดยก่อนพิจารณาผู้มีสิทธิ์ได้รับเลือกตั้งดังกล่าว ให้กรรมการสรรหาหารือนายกสมาคมนิสิตเก่าของคณะหรือเทียบเท่าคณะในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ตามข้อ ๒๕.๒ ด้วย ทั้งนี้ ภายใต้คุณสมบัติที่กรรมการสรรหาได้กำหนด สมาชิกวิสามัญมีสิทธิ์เสนอตนเองหรือเสนอสมาชิกวิสามัญคนหนึ่งคนใดต่อคณะกรรมการสรรหาด้วยก็ได้
 
 
 
                                    ให้กรรมการสรรหาแต่งตั้งกรรมการจัดการเลือกตั้งกรรมการอำนวยการสมาคม      ซึ่งต้องเป็นผู้ไม่มีส่วนได้เสียในการเลือกตั้ง และกำหนดวิธีการเลือกตั้งกรรมการอำนวยการสมาคม
 
 
 
                                  กรรมการสรรหาให้มีวาระการดำรงตำแหน่ง ๒ ปี ทั้งนี้ มิให้ดำรงตำแหน่งติดต่อกัน เกินกว่า ๒ วาระ ถ้าตำแหน่งว่างลงเพราะเหตุอื่นนอกจากถึงคราวออกตามวาระ ให้คณะกรรมการสรรหาที่เหลือพิจารณาได้ตามกรณีใดกรณีหนึ่ง ดังต่อไปนี้
 
 
 
                                  (ก) คัดเลือกบุคคลผู้มีคุณสมบัติตามข้อ ๒๖ เป็นกรรมการสรรหาแทน
 
 
 
(ข) คัดเลือกโดยวิธีการเลือกตั้งในที่ประชุมสมาชิกวิสามัญ
 
 
 
โดยให้กรรมการสรรหาที่เข้ามารับตำแหน่ง อยู่ในตำแหน่งได้เพียงเท่ากำหนดเวลาของผู้ซึ่งตนแทนเท่านั้น
 
 
 
                ข้อ ๒๗. ให้สมาชิกเป็นผู้เลือกตั้งกรรมการอำนวยการสมาคมจำนวนไม่เกิน ๑๕ คน ในข้อ ๒๕.๑ จากบัญชีผู้รับเลือกตั้งที่คณะกรรมการสรรหาจัดทำขึ้น โดยผู้ได้คะแนนสูงกว่าผู้อื่นเป็นผู้ได้รับเลือกเป็นกรรมการอำนวยการสมาคม และรายงานในที่ประชุมใหญ่โดยเร็ว
 
 
 
                                    ในกรณีที่มีคะแนนเท่ากันในลำดับสุดท้าย ให้ใช้วิธีการจับฉลาก
 
 
 
                ข้อ ๒๘. ให้กรรมการอำนวยการสมาคม ตามข้อ ๒๕.๑ คัดเลือกกรรมการอำนวยการสมาคมดังกล่าวคนหนึ่งเป็นนายกสมาคม ในกรณีที่มีคะแนนเท่ากัน ให้คัดเลือกจากผู้มีคะแนนเท่ากันนั้นใหม่จนกว่าจะได้นายกสมาคม
 
 
 
                ข้อ ๒๙. ให้นายกสมาคมโดยความเห็นชอบของกรรมการอำนวยการสมาคมตามข้อ ๒๕.๑ แต่งตั้งสมาชิกวิสามัญตามข้อ ๒๕.๓ เป็นกรรมการอำนวยการสมาคมจนได้จำนวนครบตามที่กำหนดในข้อ ๒๕
 
 
 
                                ให้นายกสมาคมแต่งตั้งกรรมการอำนวยการสมาคมดำรงตำแหน่งดังต่อไปนี้
 
 
 
                                ๑. อุปนายก
 
 
 
                                ๒. เลขาธิการ
 
 
 
                                ๓. เหรัญญิก
 
 
 
                                . นายทะเบียน
 
 
 
                                ๕. สาราณียกร
 
 
 
                                ๖. ปฏิคม
 
 
 
                                ๗. ประธานสโมสร
 
 
 
                                ๘. ประชาสัมพันธ์
 
 
 
                                ๙. กรรมการกลาง หรือประธานกีฬา หรือประธานฝ่ายต่างๆ  ตามความเหมาะสม
 
 
 
                ข้อ ๓๐. กรรมการอำนวยการสมาคมชุดหนึ่งๆ อยู่ในตำแหน่งคราวละ ๒ ปี ถ้าตำแหน่งว่างลง เพราะเหตุอื่นนอกจากถึงคราวออกตามวาระ ในกรณีเป็นกรรมการอำนวยการสมาคมตามข้อ ๒๕.๑            ให้คณะกรรมการอำนวยการสมาคมเชิญสมาชิกวิสามัญผู้ได้รับคะแนนคัดเลือกลำดับถัดไปเป็นกรรมการแทนกรรมการที่ว่าง
 
 
 
                                  หากตำแหน่งนายกสมาคมว่างลง ให้ดำเนินการตามวรรคแรกและตาม ข้อ ๒๘ ตามลำดับ
 
 
 
                                  ส่วนกรณีเป็นกรรมการอำนวยการสมาคมตามข้อ ๒๕.๓ ให้คณะกรรมการอำนวยการสมาคมเชิญสมาชิกวิสามัญผู้ใดผู้หนึ่งที่เห็นสมควรเข้าเป็นกรรมการแทนกรรมการที่ว่าง แต่ทั้งนี้      ให้กรรมการที่เข้ามารับตำแหน่ง อยู่ในตำแหน่งได้เพียงเท่ากำหนดเวลาของผู้ซึ่งตนแทนเท่านั้น
 
  
                                  ในการดำรงตำแหน่งนายกสมาคมตามวรรคแรกมิให้ติดต่อกันเกินกว่า ๒ วาระ
+
ข้อ ๒๖. กรรมการสมาคมจะขาดจากตำแหน่งโดย<br>
  
                                ในการดำรงตำแหน่งของกรรมการอำนวยการสมาคมมิให้ติดต่อกันเกินกว่า ๒ วาระ เว้นแต่การเป็นกรรมการอำนวยการสมาคมโดยตำแหน่งตามข้อ ๒๕.๒ และข้อ ๒๕.๔
+
. ถึงคราวออกตามวาระ<br>
  
                ข้อ ๓๑. กรรมการอำนวยการสมาคมจะขาดจากตำแหน่งโดย
+
. ตาย<br>
  
                                ๑. ถึงคราวออกตามวาระ
+
. ลาออก<br>
  
                                ๒. ตาย
+
. ขาดจากสมาชิกภาพของสมาชิก<br>
  
                                ๓. ลาออก
+
ให้กรรมการชุดเดิมส่งมอบงานให้เสร็จสิ้นภายใน ๓๐ วัน นับแต่วันประกาศผลการคัดเลือกกรรมการสมาคมชุดใหม่<br>
 
 
                                ๔. ขาดจากสมาชิกภาพของสมาชิกวิสามัญ
 
 
 
                                  ให้กรรมการชุดเดิมส่งมอบงานให้เสร็จสิ้นภายใน ๓๐ วัน นับแต่วันประกาศผลการคัดเลือกกรรมการอำนวยการสมาคมชุดใหม่ ตามข้อ ๒๗
 
  
 
==หมวดที่ ๗==
 
==หมวดที่ ๗==
  
อำนาจหน้าที่และการบริหารงานสมาคม  
+
อำนาจหน้าที่และการบริหารงานสมาคม <br>
  
                ข้อ ๓๒. ข้อตกลง สัญญาหรือนิติกรรมใดๆ ที่ได้กระทำในนามสมาคม จะมีผลผูกพันสมาคมต่อเมื่อข้อตกลง สัญญาหรือนิติกรรมนั้นๆ ได้ผ่านความเห็นชอบของคณะกรรมการอำนวยการสมาคม และ    ไม่เป็นการขัดกับวัตถุประสงค์ ข้อบังคับ และระเบียบของสมาคม โดยมีนายกสมาคมหรืออุปนายก ที่นายกสมาคมมอบหมายเป็นกลุ่มที่หนึ่งกับเลขาธิการหรือเหรัญญิกหรือกรรมการอำนวยการสมาคมอื่นที่นายกสมาคมมอบหมายเป็นกลุ่มที่สองลงนามร่วมกัน ๒ คนจากกลุ่มที่หนึ่ง ๑ คน และกลุ่มที่สอง ๑ คน ทั้งนี้ เว้นแต่เป็นค่าใช้จ่ายบริหารสำนักงาน ค่าใช้จ่ายประจำของสโมสร ค่าใช้จ่ายโครงการประจำ ให้เป็นไปตามระเบียบบริหารการเงินและงบประมาณของสมาคม
+
ข้อ ๒๗. ข้อตกลง สัญญาหรือนิติกรรมใดๆ ที่ได้กระทำในนามสมาคม จะมีผลผูกพันสมาคมต่อเมื่อข้อตกลง สัญญาหรือนิติกรรมนั้นๆ ได้ผ่านความเห็นชอบของคณะกรรมการสมาคม และ    ไม่เป็นการขัดกับวัตถุประสงค์ ข้อบังคับ และระเบียบของสมาคม โดยมีนายกสมาคมหรืออุปนายก ที่นายกสมาคมมอบหมายเป็นกลุ่มที่หนึ่งกับเลขาธิการหรือเหรัญญิกหรือกรรมการสมาคมอื่นที่นายกสมาคมมอบหมายเป็นกลุ่มที่สองลงนามร่วมกัน ๒ คนจากกลุ่มที่หนึ่ง ๑ คน และกลุ่มที่สอง ๑ คน ทั้งนี้ เว้นแต่เป็นค่าใช้จ่ายบริหารสำนักงาน ค่าใช้จ่ายโครงการประจำ ให้เป็นไปตามระเบียบบริหารการเงินและงบประมาณของสมาคม<br>
  
                ข้อ ๓๓. ให้มีการประชุมกรรมการอำนวยการสมาคมอย่างน้อยเดือนละ ๑ ครั้ง เพื่อตรวจตราการเงินและดำเนินงานของสมาคม องค์ประชุมของคณะกรรมการอำนวยการสมาคมต้องมีกรรมการ           มาประชุมกันตั้งแต่ ๑๕ คนขึ้นไป ซึ่งจะต้องมีนายกหรืออุปนายกมาร่วมอยู่ด้วย
+
ข้อ ๒๘. ให้มีการประชุมกรรมการสมาคมอย่างน้อยไตรมาส ละ ๑ ครั้ง เพื่อตรวจตราการเงินและดำเนินงานของสมาคม องค์ประชุมของคณะกรรมการสมาคมต้องมีกรรมการ           มาประชุมกันตั้งแต่ ๒๐ คนขึ้นไป ซึ่งจะต้องมีนายกหรืออุปนายกมาร่วมอยู่ด้วย<br>
  
นายกสมาคม หรือประธานในที่ประชุม อาจกำหนดให้จัดการประชุมคณะกรรมการอำนวยการสมาคมเป็นการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ก็ได้ โดยการดำเนินการจะต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการตามที่กฎหมายกำหนด และตามมาตรฐานการรักษาความมั่นคงปลอดภัยด้านสารสนเทศที่กำหนดไว้ในกฎหมาย
+
นายกสมาคม หรือประธานในที่ประชุม อาจกำหนดให้จัดการประชุมคณะกรรมการสมาคมเป็นการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ก็ได้ โดยการดำเนินการจะต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการตามที่กฎหมายกำหนด และตามมาตรฐานการรักษาความมั่นคงปลอดภัยด้านสารสนเทศที่กำหนดไว้ในกฎหมาย<br>
  
                ข้อ ๓๔. กรรมการอำนวยการสมาคมอาจคัดเลือกสมาชิกวิสามัญผู้สมควรได้รับการแต่งตั้งเป็นอนุกรรมการเฉพาะกิจการของสมาคมได้
+
ข้อ ๒๙. กรรมการสมาคมอาจคัดเลือกสมาชิกผู้สมควรได้รับการแต่งตั้งเป็นอนุกรรมการเฉพาะกิจการของสมาคมได้<br>
  
                              กรรมการอำนวยการสมาคมอาจคัดเลือกบุคคลที่มีความเหมาะสมโดยจะมีสถานะเป็นสมาชิกสมาคมหรือไม่ก็ได้ เป็นที่ปรึกษาหรือคณะทำงานได้ตามสมควร
+
กรรมการสมาคมอาจคัดเลือกบุคคลที่มีความเหมาะสมโดยจะมีสถานะเป็นสมาชิกสมาคมหรือไม่ก็ได้ เป็นที่ปรึกษาหรือคณะทำงานได้ตามสมควร <br>
 +
เสนอรายชื่อและข้อมูลต่อที่ประชุมคณะกรรมการสมาคมเพื่อพิจารณามีมติแต่งตั้ง และให้ผู้ได้รับการแต่งตั้งปฏิบัติงานตามระยะเวลาที่ได้รับมอบหมายซึ่งต้องไม่เกินกว่าวาระของคณะกรรมการสมาคมชุดที่เป็นผู้แต่งตั้งนั้น<br>
  
โดยให้กรรมการอำนวยการสมาคมตามวรรคแรกหรือวรรคสองแล้วแต่กรณี
+
ข้อ ๓๐. กรรมการสมาคมแต่ละตำแหน่งมีหน้าที่และความรับผิดชอบ ดังนี้ :<br>
เสนอรายชื่อและข้อมูลต่อที่ประชุมคณะกรรมการอำนวยการสมาคมเพื่อพิจารณามีมติแต่งตั้ง และให้ผู้ได้รับการแต่งตั้งปฏิบัติงานตามระยะเวลาที่ได้รับมอบหมายซึ่งต้องไม่เกินกว่าวาระของคณะกรรมการอำนวยการสมาคมชุดที่เป็นผู้แต่งตั้งนั้น
 
  
                ข้อ ๓๕. กรรมการอำนวยการสมาคมแต่ละตำแหน่งมีหน้าที่และความรับผิดชอบ ดังนี้ :
+
. นายกสมาคม มีหน้าที่บริหารงานสมาคม ควบคุมกิจการทั่วไปของสมาคม        ให้เป็นไปตามข้อบังคับ มติ ระเบียบ นโยบายของสมาคม และตามกฎหมาย เป็นผู้แทนสมาคมในการติดต่อกับบุคคลภายนอก เป็นประธานที่ประชุมใหญ่ และการประชุมคณะกรรมการสมาคม รวมถึงเป็นผู้มีสิทธิ์ออกเสียงชี้ขาดเมื่อคะแนนเสียงในที่ประชุมเท่ากัน<br>
  
                                ๑. นายกสมาคม มีหน้าที่บริหารงานสมาคม ควบคุมกิจการทั่วไปของสมาคม        ให้เป็นไปตามข้อบังคับ มติ ระเบียบ นโยบายของสมาคม และตามกฎหมาย เป็นผู้แทนสมาคมในการติดต่อกับบุคคลภายนอก เป็นประธานที่ประชุมใหญ่ และการประชุมคณะกรรมการอำนวยการสมาคม รวมถึงเป็นผู้มีสิทธิ์ออกเสียงชี้ขาดเมื่อคะแนนเสียงในที่ประชุมเท่ากัน
+
. อุปนายก มีหน้าที่ปฏิบัติงานแทนนายกสมาคมตามที่นายกสมาคมมอบหมาย และในกรณีที่นายกสมาคมไม่อยู่หรือไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้อุปนายกในลำดับอาวุโสตามคำสั่งนายกสมาคมเป็นผู้ปฏิบัติงานแทน<br>
  
                                ๒. อุปนายก มีหน้าที่ปฏิบัติงานแทนนายกสมาคมตามที่นายกสมาคมมอบหมาย และในกรณีที่นายกสมาคมไม่อยู่หรือไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้อุปนายกในลำดับอาวุโสตามคำสั่งนายกสมาคมเป็นผู้ปฏิบัติงานแทน
+
. เลขาธิการ มีหน้าที่ดำเนินงานของสมาคมตามที่นายก หรืออุปนายกมอบหมายให้    อีกทั้งมีหน้าที่ติดต่อกับสมาชิก และบุคคลภายนอกในกิจการของสมาคม ดำเนินการให้เป็นไปตามระเบียบข้อบังคับของสมาคม เรียกประชุม บันทึกการประชุม เก็บรักษารายงานการประชุม และโต้ตอบจดหมายอันเกี่ยวกับกิจการของสมาคมตามมติของที่ประชุมคณะกรรมการสมาคม รับผิดชอบเกี่ยวกับงานพัสดุ และทรัพย์สินของสมาคม ทำบัญชีทรัพย์สิน สำรวจทรัพย์สินประจำปี และกิจการอื่นๆ ตามที่คณะกรรมการสมาคมมอบหมาย<br>
  
                                ๓. เลขาธิการ มีหน้าที่ดำเนินงานของสมาคมตามที่นายก หรืออุปนายกมอบหมายให้    อีกทั้งมีหน้าที่ติดต่อกับสมาชิก และบุคคลภายนอกในกิจการของสมาคม ดำเนินการให้เป็นไปตามระเบียบข้อบังคับของสมาคม เรียกประชุม บันทึกการประชุม เก็บรักษารายงานการประชุม และโต้ตอบจดหมายอันเกี่ยวกับกิจการของสมาคมตามมติของที่ประชุมคณะกรรมการอำนวยการสมาคม รับผิดชอบเกี่ยวกับงานพัสดุ และทรัพย์สินของสมาคม ทำบัญชีทรัพย์สิน สำรวจทรัพย์สินประจำปี และกิจการอื่นๆ ตามที่คณะกรรมการอำนวยการสมาคมมอบหมาย
+
. เหรัญญิก มีหน้าที่ด้านการเงินและบัญชีของสมาคม กำกับดูแลการเก็บ การรักษาเงิน การทวงหนี้และชำระหนี้ของสมาคม การออกใบเสร็จรับเงินทุกประเภท และการจัดทำรายงานการเงินประจำปี      ให้ผู้สอบบัญชีตรวจสอบและรับรองเพื่อนำเสนอที่ประชุมใหญ่พิจารณารับรอง ตลอดจนจัดให้มีสมุดบัญชีและเอกสารทางการเงินของสมาคม พร้อมด้วยหลักฐานและใบสำคัญในการรับและจ่ายเงินให้ถูกต้องตามหลักการบัญชี และการเก็บเอกสารหลักฐานต่างๆ ของสมาคมไว้เพื่อตรวจสอบ<br>
  
                                ๔. เหรัญญิก มีหน้าที่ด้านการเงินและบัญชีของสมาคม กำกับดูแลการเก็บ การรักษาเงิน การทวงหนี้และชำระหนี้ของสมาคม การออกใบเสร็จรับเงินทุกประเภท และการจัดทำรายงานการเงินประจำปี      ให้ผู้สอบบัญชีตรวจสอบและรับรองเพื่อนำเสนอที่ประชุมใหญ่พิจารณารับรอง ตลอดจนจัดให้มีสมุดบัญชีและเอกสารทางการเงินของสมาคม พร้อมด้วยหลักฐานและใบสำคัญในการรับและจ่ายเงินให้ถูกต้องตามหลักการบัญชี และการเก็บเอกสารหลักฐานต่างๆ ของสมาคมไว้เพื่อตรวจสอบ
+
. นายทะเบียน มีหน้าที่จัดทำทะเบียนประวัติสมาชิก และทำเนียบสมาชิกสมาคม<br>
  
                                ๕. นายทะเบียน มีหน้าที่จัดทำทะเบียนประวัติสมาชิก และทำเนียบสมาชิกสมาคม
+
. สาราณียกร มีหน้าที่จัดทำรายงานประจำปี ตลอดจนงานสื่อสารทุกประเภท จัดทำวารสารหรือข่าวสารเกี่ยวกับสมาคม เพื่อแจกจ่าย หรือจำหน่ายแก่สมาชิก ตามที่คณะกรรมการสมาคมมอบหมาย<br>
  
                                ๖. สาราณียกร มีหน้าที่จัดทำรายงานประจำปี ตลอดจนงานสื่อสารทุกประเภท จัดทำวารสารหรือข่าวสารเกี่ยวกับสมาคม เพื่อแจกจ่าย หรือจำหน่ายแก่สมาชิก ตามที่คณะกรรมการอำนวยการสมาคมมอบหมาย
+
. ปฏิคม มีหน้าที่อำนวยความสะดวกให้สมาชิกและผู้ร่วมในกิจการสมาคม ตลอดจนจัดกิจกรรมและงานสังคมที่สมาคมจัดขึ้น<br>
 +
                 
 +
๘. ประชาสัมพันธ์ มีหน้าที่เผยแพร่ประชาสัมพันธ์ข่าวสาร และกิจกรรมของสมาคม เพื่อประโยชน์และสร้างความสัมพันธ์ระหว่างสมาชิก ตลอดจนงานสื่อสารทุกประเภท จัดทำวารสารหรือข่าวสารเกี่ยวกับสมาคม เพื่อแจกจ่ายหรือจำหน่ายแก่สมาชิก ตามที่คณะกรรมการสมาคมมอบหมาย<br>
  
                                ๗. ปฏิคม มีหน้าที่อำนวยความสะดวกให้สมาชิกและผู้ร่วมในกิจการสมาคม ตลอดจนจัดกิจกรรมและงานสังคมที่สมาคมจัดขึ้น
+
กรรมการกลาง  มีหน้าที่ให้ความคิดเห็น และร่วมรับผิดชอบการดำเนินงานของสมาคมให้บรรลุตามวัตถุประสงค์อันเป็นประโยชน์ต่อสมาคม<br>
  
                                ๘. ประธานสโมสร มีหน้าที่บริหารงานอาคารสถานที่ของสมาคม และการบำรุงรักษาอาคารสถานที่ ตลอดจนอำนวยความสะดวกด้านอาคารสถานที่ในการจัดกิจกรรมและงานสังคมของสมาคม
+
ข้อ ๓๑. การบริหารการเงินของสมาคมให้เป็นไปตามระเบียบการบริหารการเงินของสมาคม    ซึ่งได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการสมาคม และเสนอระเบียบให้ที่ประชุมใหญ่ทราบ<br>
  
                                ๙. ประชาสัมพันธ์ มีหน้าที่เผยแพร่ประชาสัมพันธ์ข่าวสาร และกิจกรรมของสมาคม เพื่อประโยชน์และสร้างความสัมพันธ์ระหว่างสมาชิก ตลอดจนงานสื่อสารทุกประเภท จัดทำวารสารหรือข่าวสารเกี่ยวกับสมาคม เพื่อแจกจ่ายหรือจำหน่ายแก่สมาชิก ตามที่คณะกรรมการอำนวยการสมาคมมอบหมาย
+
ข้อ ๓๒.  ให้ที่ประชุมใหญ่แต่งตั้งผู้สอบบัญชี ๑ คน  และกำหนดค่าสอบบัญชีประจำปี<br>
 
 
                                  กรรมการกลาง  มีหน้าที่ให้ความคิดเห็น และร่วมรับผิดชอบการดำเนินงานของสมาคมให้บรรลุตามวัตถุประสงค์อันเป็นประโยชน์ต่อสมาคม
 
 
 
                ข้อ ๓๖.  การบริหารการเงินของสมาคมให้เป็นไปตามระเบียบการบริหารการเงินของสมาคม    ซึ่งได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการอำนวยการสมาคม และเสนอระเบียบให้ที่ประชุมใหญ่ทราบ
 
 
 
                ข้อ ๓๗.  ให้ที่ประชุมใหญ่แต่งตั้งผู้สอบบัญชี ๑ คน  และกำหนดค่าสอบบัญชีประจำปี
 
  
 
==หมวดที่ ๘==
 
==หมวดที่ ๘==
  
การประชุมใหญ่
+
การประชุมใหญ่<br>
 
 
                ข้อ ๓๘. เนื่องจากรอบบัญชีของสมาคมเริ่มตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคมของทุกปี จึงให้มีการประชุมใหญ่สามัญประจำปี ปีละหนึ่งครั้ง โดยปกติภายในเดือนเมษายนของทุกปี
 
 
 
                                  การประชุมใหญ่ต้องมีสมาชิกสามัญและสมาชิกวิสามัญร่วมประชุมไม่น้อยกว่า    ๕๐ คน ซึ่งในจำนวนนี้ต้องมีกรรมการอำนวยการสมาคมร่วมประชุม ไม่น้อยกว่า ๑๐ คน จึงจะถือเป็น      องค์ประชุมได้ ถ้าสมาชิกไม่ครบองค์ประชุมให้เรียกประชุมอีกครั้งหนึ่งภายใน ๑๔ วัน โดยมีจำนวนสมาชิก  ร่วมประชุมเท่าใดก็ให้ถือว่าครบองค์ประชุม
 
  
                                นายกสมาคม หรือประธานในที่ประชุม อาจกำหนดให้จัดการประชุมเป็นการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ก็ได้  โดยการดำเนินการจะต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการตามที่กฎหมายกำหนด และตามมาตรฐานการรักษาความมั่นคงปลอดภัยด้านสารสนเทศที่กำหนดไว้ในกฎหมาย
+
ข้อ ๓๓. เนื่องจากรอบบัญชีของสมาคมเริ่มตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคมของทุกปี จึงให้มีการประชุมใหญ่สามัญประจำปี ปีละหนึ่งครั้ง โดยปกติภายในเดือนเมษายนของทุกปี<br>
  
                                  การลงมติต่างๆ ในที่ประชุมใหญ่ หากข้อบังคับมิได้กำหนดไว้เป็นอย่างอื่น            ให้ถือเสียงข้างมากเป็นเกณฑ์ กรณีที่คะแนนเสียงเท่ากันให้ประธานในที่ประชุมใหญ่เป็นผู้ชี้ขาด
+
การประชุมใหญ่ต้องมีสมาชิกสามัญและสมาชิกวิสามัญร่วมประชุมไม่น้อยกว่า  ๑๐๐ คน ซึ่งในจำนวนนี้ต้องมีกรรมการสมาคมร่วมประชุม ไม่น้อยกว่า ๒๐ คน จึงจะถือเป็น      องค์ประชุมได้ ถ้าสมาชิกไม่ครบองค์ประชุมให้เรียกประชุมอีกครั้งหนึ่งภายใน ๓๐ วัน โดยมีจำนวนสมาชิก  ร่วมประชุมเท่าใดก็ให้ถือว่าครบองค์ประชุม<br>
  
                        ข้อ ๓๘/๑ การประชุมสมาชิกวิสามัญเพื่อเลือกตั้งกรรมการสรรหาตามข้อ ๒๖ ต้องมีสมาชิกวิสามัญร่วมประชุมไม่น้อยกว่า ๕๐ คน ซึ่งในจำนวนนี้ต้องมีกรรมการอำนวยการสมาคมร่วมประชุมไม่น้อยกว่า ๑๐ คน จึงจะถือเป็นองค์ประชุมได้ ถ้าสมาชิกวิสามัญไม่ครบองค์ประชุมให้เรียกประชุมอีกครั้งหนึ่งภายใน  ๑๔ วัน โดยมีจำนวนสมาชิกวิสามัญร่วมประชุมเท่าใดก็ได้ให้ถือว่าครบองค์ประชุม
+
นายกสมาคม หรือประธานในที่ประชุม อาจกำหนดให้จัดการประชุมเป็นการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ก็ได้  โดยการดำเนินการจะต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการตามที่กฎหมายกำหนด และตามมาตรฐานการรักษาความมั่นคงปลอดภัยด้านสารสนเทศที่กำหนดไว้ในกฎหมาย<br>
  
                        คณะกรรมการอำนวยการสมาคมสามารถกำหนดวิธีการจัดประชุมสมาชิกวิสามัญ           เพื่อเลือกตั้งกรรมการสรรหาได้ หรือคณะกรรมการอำนวยการสมาคมอาจกำหนดให้นำความในข้อ ๓๘ และข้อ ๓๙ มาใช้บังคับได้โดยอนุโลม
+
การลงมติต่างๆ ในที่ประชุมใหญ่ หากข้อบังคับมิได้กำหนดไว้เป็นอย่างอื่น           ให้ถือเสียงข้างมากเป็นเกณฑ์ กรณีที่คะแนนเสียงเท่ากันให้ประธานในที่ประชุมใหญ่เป็นผู้ชี้ขาด<br>
  
                ข้อ ๓๙. การประชุมใหญ่ดังกล่าวในข้อ ๓๘ นั้น ให้เลขาธิการโดยอนุมัติของคณะกรรมการอำนวยการสมาคมประกาศกำหนดวัน เวลา วิธีการประชุม และสถานที่ที่จะประชุมแจ้งให้สมาชิกสามัญและสมาชิกวิสามัญทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า ๑๕ วัน ก่อนกำหนดวันประชุม
+
ข้อ ๓๔ การประชุมสมาชิกวิสามัญเพื่อเลือกตั้งกรรมการสมาคม ตามข้อ ๒๔  ต้องมีสมาชิกวิสามัญร่วมประชุมไม่น้อยกว่า ๕๐ คน ซึ่งในจำนวนนี้ต้องมีกรรมการสมาคมร่วมประชุมไม่น้อยกว่า ๑๐ คน จึงจะถือเป็นองค์ประชุมได้ ถ้าสมาชิกวิสามัญไม่ครบองค์ประชุมให้เรียกประชุมอีกครั้งหนึ่งภายใน  ๑๔ วัน โดยมีจำนวนสมาชิกวิสามัญร่วมประชุมเท่าใดก็ได้ให้ถือว่าครบองค์ประชุม<br>
 +
                 
 +
ข้อ ๓๕. การประชุมใหญ่ดังกล่าวในข้อ ๓๓ นั้น ให้เลขาธิการโดยอนุมัติของคณะกรรมการสมาคมประกาศกำหนดวัน เวลา วิธีการประชุม และสถานที่ที่จะประชุมแจ้งให้สมาชิกสามัญและสมาชิกวิสามัญทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า ๑๕ วัน ก่อนกำหนดวันประชุม<br>
  
                                  การประกาศตามวรรคแรก อาจดำเนินการโดยประกาศในหนังสือพิมพ์รายวันและทางเว็บไซต์สมาคม หรือที่อยู่ทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือไปรษณีย์ตามที่สมาชิกแจ้งในข้อมูลทะเบียนสมาคม หรือตามวิธีการอื่นที่คณะกรรมการอำนวยการสมาคมเห็นสมควร
+
การประกาศตามวรรคแรก อาจดำเนินการโดยประกาศในหนังสือพิมพ์รายวันและทางเว็บไซต์สมาคม หรือที่อยู่ทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือไปรษณีย์ตามที่สมาชิกแจ้งในข้อมูลทะเบียนสมาคม หรือตามวิธีการอื่นที่คณะกรรมการสมาคมเห็นสมควร<br>
  
                ข้อ ๔๐. ให้คณะกรรมการอำนวยการสมาคมเป็นผู้ทำรายงานประจำปีรวมเรื่องราวกิจการงานแต่ละอย่างตามวัตถุประสงค์ ตลอดจนแสดงงบดุลประจำปี เพื่อสมาชิกสามัญและสมาชิกวิสามัญทั้งหลายอาจตรวจดูได้ไม่น้อยกว่า ๗ วันก่อนวันประชุมใหญ่ หรือเผยแพร่ลงในเว็บไซต์สมาคมเพื่อประโยชน์แก่การตรวจสอบของสมาชิก
+
ข้อ ๓๖. ให้คณะกรรมการสมาคมเป็นผู้ทำรายงานประจำปีรวมเรื่องราวกิจการงานแต่ละอย่างตามวัตถุประสงค์ ตลอดจนแสดงงบดุลประจำปี เพื่อสมาชิกสามัญและสมาชิกวิสามัญทั้งหลายอาจตรวจดูได้ไม่น้อยกว่า ๗ วันก่อนวันประชุมใหญ่ หรือเผยแพร่ลงในเว็บไซต์สมาคมเพื่อประโยชน์แก่การตรวจสอบของสมาชิก<br>
  
                ข้อ ๔๑. นอกจากการประชุมใหญ่สามัญประจำปีดังกล่าวแล้ว หากมีกรณีพิเศษในปีใด              ที่กรรมการอำนวยการสมาคมเห็นสมควร อาจจัดให้มีการประชุมใหญ่วิสามัญด้วยก็ได้ แต่การเรียกประชุมใหญ่วิสามัญนี้ ให้ระบุความประสงค์ที่จะต้องการประชุมโดยชัดแจ้งให้สมาชิกทราบพร้อมกันไปด้วย โดยให้นำความในข้อ ๓๘ และข้อ ๓๙ มาใช้บังคับโดยอนุโลม
+
ข้อ ๓๗. นอกจากการประชุมใหญ่สามัญประจำปีดังกล่าวแล้ว หากมีกรณีพิเศษในปีใด              ที่กรรมการสมาคมเห็นสมควร อาจจัดให้มีการประชุมใหญ่วิสามัญด้วยก็ได้ แต่การเรียกประชุมใหญ่วิสามัญนี้ ให้ระบุความประสงค์ที่จะต้องการประชุมโดยชัดแจ้งให้สมาชิกทราบพร้อมกันไปด้วย โดยให้นำความในข้อ ๓๓ และข้อ ๓๕ มาใช้บังคับโดยอนุโลม<br>
  
 
==หมวดที่ ๙==
 
==หมวดที่ ๙==
  
การแก้ไขข้อบังคับและวางระเบียบ
+
การแก้ไขข้อบังคับและวางระเบียบ<br>
  
                ข้อ ๔๒. ห้ามมิให้ตั้งข้อบังคับขึ้นใหม่ หรือเพิ่มเติมแก้ไขดัดแปลงข้อบังคับนี้ นอกจากกระทำโดยที่ประชุมใหญ่ด้วยมติสองในสามของจำนวนสมาชิกที่มาประชุม
+
ข้อ ๓๘. ห้ามมิให้ตั้งข้อบังคับขึ้นใหม่ หรือเพิ่มเติมแก้ไขดัดแปลงข้อบังคับนี้ นอกจากกระทำโดยที่ประชุมใหญ่ด้วยมติสองในสามของจำนวนสมาชิกที่มาประชุม<br>
  
                ข้อ ๔๓. นอกจากข้อบังคับนี้จะกำหนดเป็นอย่างอื่น ให้กรรมการอำนวยการสมาคมมีอำนาจ วางระเบียบการที่ไม่ขัดหรือแย้งกับข้อบังคับ เพื่อจัดการให้เป็นไปตามความประสงค์แห่ง ข้อบังคับนี้
+
ข้อ ๓๙. นอกจากข้อบังคับนี้จะกำหนดเป็นอย่างอื่น ให้กรรมการสมาคมมีอำนาจ วางระเบียบการที่ไม่ขัดหรือแย้งกับข้อบังคับ เพื่อจัดการให้เป็นไปตามความประสงค์แห่ง ข้อบังคับนี้<br>
  
 
==หมวดที่ ๑๐==
 
==หมวดที่ ๑๐==
  
การเลิกสมาคมและการชำระบัญชี
+
การเลิกสมาคมและการชำระบัญชี<br>
 
 
                ข้อ ๔๔. ถ้าสมาคมต้องเลิกด้วยเหตุผลใดก็ตาม ให้ทรัพย์สินทั้งหมดของสมาคมตกเป็นของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
 
 
 
==หมวดที่ ๑๑==
 
 
 
บทเฉพาะกาล
 
  
                ข้อ ๔๕. บรรดาระเบียบการ หรือคำสั่งของสมาคมในส่วนที่ไม่ขัดหรือแย้งกับข้อบังคับนี้ ให้มีผลใช้บังคับต่อไปได้
+
ข้อ ๔๐. ถ้าสมาคมต้องเลิกด้วยเหตุผลใดก็ตาม ให้ทรัพย์สินทั้งหมดของสมาคมตกเป็นของมหาวิทยาลัย มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย<br>
  
                ข้อ ๔๖. ให้คณะกรรมการอำนวยการสมาคมที่ดำรงตำแหน่งอยู่ในวันพิจารณาอนุมัติข้อบังคับนี้ เป็นคณะกรรมการอำนวยการสมาคมจนกว่าจะครบวาระที่กำหนดในข้อบังคับตามข้อ ๓๐
+
==บทเฉพาะกาล==
  
                ข้อ ๔๗. จำนวนกรรมการอำนวยการสมาคมตามข้อ ๒๕ และการเริ่มต้นนับระยะเวลาในการดำรงตำแหน่งติดต่อกันของนายกสมาคมและกรรมการอำนวยการสมาคมตามข้อ ๓๐ วรรคสี่ และวรรคห้า    ให้ใช้บังคับกับกรรมการอำนวยการสมาคมที่ได้รับเลือกตั้งใหม่ตามข้อบังคับนี้
+
ข้อ๔๑ ผู้ไกล่เกลี่ยข้อพิพาท ที่ผ่านการอบรมหลักสูตรผู้ไกล่เกลี่ยข้อพิพาท (พุทธสันติวิธี) มหาวิทยาลัย มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ทั้ง ๘ รุ่น เป็นผู้ก่อตั้งสมาคมนี้
 +
ข้อ ๔๒ การประชุมร่วมกันของคณะกรรมการรุ่น ทั้ง ๘ รุ่น ที่รวมกันประชุมไม่น้อยกว่า ๕๐ คน แล้วมีมติจดทะเบียนสมาคมนี้ และดำเนินการจดทะเบียนสมาคมตามกฎหมาย
 +
จัดว่าเป็นสมาชิกสมาคมที่นำเข้าจดแจ้งสมาคม เป็นคณะกรรมการชุดแรกของสมาคม
  
                ข้อ ๔๘. ให้สมาชิกวิสามัญที่มีอยู่ในวันที่ข้อบังคับนี้ใช้บังคับ เป็นสมาชิกวิสามัญตามข้อบังคับนี้
 
  
 
……………………………………..
 
……………………………………..

รุ่นแก้ไขปัจจุบันเมื่อ 09:08, 27 ธันวาคม 2566

ข้อบังคับ

สมาคมผู้ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทแห่งประเทศไทย
พ.ศ. ๒๕๖๕

โดยที่มีคำปณิธานของผู้เข้าอบรมหลักสูตรผู้ไกล่เกลี่ยข้อพิพาท ว่า "ข้าพเจ้าขอตั้งสัจจะอธิษฐานว่า ข้าพเจ้าขอบำเพ็ญสันติบารมี พัฒนาชีวีให้รู้ตื่นและเบิกบาน ร่วมประสานมนุษย์และสังคม ให้อุดมด้วยสันติสุข ในทุกลมหายใจ ตลอดไปเทอญ" และสังคมไทยมีความตัองการผู้ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทจำนวนมาก มีคุณภาพ จึงเป็นการสมควรจัดตั้งสมาคมผู้ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทแห่งประเทศไทย ให้มีความเหมาะสม สอดคล้องกับสภาพปัจจุบัน

หมวดที่ ๑

บททั่วไป

ข้อ ๑. ข้อบังคับนี้เรียกว่า “ข้อบังคับสมาคมผู้ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทแห่งประเทศไทย พ.ศ. ๒๕๖๕”

ข้อ ๒. ให้ใช้ข้อบังคับนี้ตั้งแต่วันที่นายทะเบียนได้รับจดทะเบียนเป็นต้นไป

ข้อ ๓. ข้อบังคับนี้ระบุความหมายไว้ดังนี้

“สมาคม” หมายความถึง สมาคมผู้ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทแห่งประเทศไทย

“สมาชิก” หมายความถึง สมาชิกสมาคมผู้ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทแห่งประเทศไทย ทุกประเภท

“คณะกรรมการสมาคม” หมายความถึง คณะกรรมการสมาคมผู้ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทแห่งประเทศไทย

หมวดที่ ๒

ชื่อ เครื่องหมายและสถานที่ตั้งสมาคม

ข้อ ๔. สมาคมนี้มีชื่อว่า “สมาคมผู้ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทแห่งประเทศไทย” เรียกโดยย่อว่า “................” โดยเรียกเป็นภาษาอังกฤษว่า “...................................” มีอักษรย่อว่า “...........”

ข้อ ๕. เครื่องหมายของสมาคมทำด้วย............. เป็นเข็มหรือ............... ภายในรูปวงกลม มีรูปภาพ........... ส่วนพื้นรอง...............เป็นสี......... มีชื่อของสมาคมเป็นสี...........รอบวงกลม เครื่องหมายของสมาคมนี้สำหรับประดับเครื่องแต่งกายของสมาชิกโดยขยายส่วนต่างๆ ของเครื่องหมายให้เหมาะสมกันแล้วย่อมทำได้ ทั้งนี้ต้องให้เป็นไปตามแบบที่สมาคมกำหนดไว้ด้วย

ข้อ ๖. สำนักงานของสมาคมตั้งอยู่ ณ บริเวณที่ตั้งมหาวิทยาลัย มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย อำเภอวังน้อย จังหวัดนครศรีอยุธยา

หมวดที่ ๓

วัตถุประสงค์

ข้อ ๗. สมาคมมีวัตถุประสงค์ ดังต่อไปนี้

๑.เพื่อส่งเสริมขับเคลื่อนให้ผู้ไกล่เกลี่ยข้อพิพาท ดำรงวัฒนธรรมการทำงานเป็นเครือข่ายทุกระดับ คือ ระดับประเทศ ระดับภาค ระดับเขต ระดับจังหวัด ระดับอำเภอ และระดับตำบล
๒.เพื่อส่งเสริมการดำเนินการของศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทภาคประชาชนเกิดความเข้มแข็ง ยั่งยืน เป็นความหวังของชุมชน
๓.เพื่อน้อมนำแนวคิดทางปรัชญา ศาสนา สันติภาพ สันติวิธี ให้ผู้ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทได้เรียนรู้ ฝึกฝน ปฏิบัติการสู่วิชาชีพชำนาญการ ชำนาญการพิเศษ
๔.เพื่อส่งเสริม เสริมแรง สนับสนุนให้ผู้ไกล่เกลี่ยข้อพิพาท หรือคณะทำงานศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาท เกิดขวัญกำลังใจ มีสวัสดิการ ในการปฏิบัติหน้าที่อย่างราบรื่นเกิดสันติภาพจากภายใน
๕.เพื่อสนับสนุนสร้างสังคมไทยขับเคลื่อนความยุติธรรมผ่านกลไกการไกล่เกลี่ยทางเลือกที่ให้ความสำคัญต่อสันติสุขของสังคม ชุมชน หมู่คน ที่เริ่มต้นจากสันติภายในของผู้คนที่มีความขัดแย้งกัน
๖. เพื่อบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ สมาคมนี้ไม่มีวัตถุประสงค์เกี่ยวข้องกับการเมือง

หมวดที่ ๔

ประเภท คุณสมบัติ การสมัครเข้าเป็นสมาชิก ค่าบำรุงและการขาดจากสมาชิกภาพ

ข้อ ๘. สมาชิกแบ่งออกเป็น ๓ ประเภท คือ

๑. สมาชิกสามัญ คือ ผู้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นผู้ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทตามกฎหมาย

๒. สมาชิกกิตติมศักดิ์

๓. สมาชิกวิสามัญ คือ ผู้สนับสนุน หนุนเสริม เสริมแรง สมาคมให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์สมาคม

ข้อ ๙. สมาชิกสมาคมตามข้อ ๘ ต้องมีคุณสมบัติข้อใดข้อหนึ่งดังต่อไปนี้

๑.เป็นผู้มีชื่อในทะเบียนผู้ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทในขณะนั้น
๒.ผู้ที่ผ่านการอบรมหลักสูตรผู้ไกล่เกลี่ยข้อพิพาท ที่กระทรวงยุติธรรมให้การรับรอง
๓.ผู้ที่ผ่านการอบรมหรือผ่านการศึกษา ตามหลักสูตรสันติวิธี หรือหลักสูตรผู้ไกล่เกลี่ยข้อพิพาท ตามที่มหาวิทยาลัย มหาจุฬาลงกรราชวิทยาลัย จัดขึ้น
๔. ผู้ที่ผ่านการอบรมหลักสูตรใดที่สมาคมนี้เห็นชอบ
๕. ผู้อุทิศตนช่วยงานประจำศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทภาคประชาชน
๖. ผู้อุทิศตนด้านการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท หรือที่ได้รับการยกย่องในแวดวงการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท

และไม่มีพฤติกรรมที่แสดงให้เห็นอย่างชัดแจ้งว่าขัดต่อวัตถุประสงค์ของสมาคมตามข้อ ๗ และสมาชิกต้องไม่มีลักษณะต้องห้ามดังต่อไปนี้

(ก) เคยได้รับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก และพ้นโทษมาไม่เกิน ๒ ปี เว้นแต่เป็นโทษสำหรับความผิดที่ได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ

(ข) เคยถูกไล่ออก ปลดออก หรือให้ออกจากงานเพราะทุจริตต่อหน้าที่

ข้อ ๑๐. สมาชิกกิตติมศักดิ์ ได้แก่บุคคลที่อุปการะช่วยเหลือทำคุณประโยชน์แก่สมาคมหรือผู้มีเกียรติที่คณะกรรมการสมาคมมีมติด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่า ๓ ใน ๔ ของจำนวนกรรมการสมาคมที่มาประชุมและออกเสียงลงคะแนนให้เชิญเป็นสมาชิกของสมาคม

ข้อ ๑๑. ผู้สมัครเป็นสมาชิกสามัญหรือสมาชิกวิสามัญต้องแสดงความจำนงเข้าเป็นสมาชิกตามแบบที่สมาคมกำหนด และให้นายทะเบียนสมาคมนำเสนอรายชื่อและข้อมูลผู้สมัครต่อที่ประชุมคณะกรรมการสมาคมเพื่อพิจารณามีมติรับเป็นสมาชิก

เมื่อคณะกรรมการสมาคมมีมติรับเป็นสมาชิกแล้ว ผู้สมัครจะมีสถานะเป็นสมาชิกโดยสมบูรณ์ตั้งแต่วันที่นายทะเบียนสมาคมได้จดแจ้งชื่อในทะเบียนสมาชิก

ข้อ ๑๑. สมาชิกสามัญ และสมาชิกวิสามัญ จะต้องชำระค่าบำรุงสมาคมรายปี ปีละ ๕๐๐ บาท หรือ ตามจำนวนที่คณะกรรมการสมาคมมีมติเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสม
ข้อ ๑๒. สมาชิกสมาคม หรือบุคคลทั่วไป สามารถบริจาคเงินให้เป็นทุนนิธิของสมาคมได้
เงินค่าบำรุงสมาคมหรือทุนนิธิของสมาคมนี้ ให้คณะกรรมการสมาคมจัดซื้อพันธบัตรรัฐบาลหรือพันธบัตรรัฐวิสาหกิจ หรือฝากธนาคารพาณิชย์ หรือธนาคารเฉพาะกิจของรัฐ หรือตั๋วเงินที่รับรองหรืออาวัล โดยธนาคารพาณิชย์ที่ได้ผลประโยชน์มากกว่าผลประโยชน์พันธบัตรรัฐบาล ทั้งนี้ คณะกรรมการสมาคมสามารถนำเฉพาะแต่ผลประโยชน์ของเงินค่าบำรุงสมาคมดังกล่าว มาใช้ในกิจกรรมของสมาคมได้

ข้อ ๑๓. ให้เลขาธิการสมาคมนำชื่อสมาชิกกิตติมศักดิ์ ประกาศให้สมาชิกทั่วไปทราบ

ข้อ ๑๔. สมาชิกภาพของสมาชิกย่อมเริ่มตั้งแต่วันที่สมาคมลงชื่อในทะเบียน

ข้อ ๑๕. สมาชิกภาพของสมาชิกย่อมสิ้นสุดลงเมื่อ

๑. ตาย
๒. มีความประพฤติไม่เหมาะสม ทำความเสื่อมเสียอย่างร้ายแรงต่อจริยธรรมผู้ไกล่เกลี่ย
๓. ลาออก
๔. ขาดคุณสมบัติข้อใดข้อหนึ่งหรือมีลักษณะต้องห้ามตามข้อ ๙.
๕. ละเมิดระเบียบ หรือข้อบังคับของสมาคมโดยเจตนา ซึ่งเมื่อได้รับคำตักเตือนจากคณะกรรมการสมาคมแล้ว ผู้นั้นยังกระทำอยู่

การขาดจากสมาชิกภาพตามข้อ ๑๕.๒ และข้อ ๑๕.๕ ให้คณะกรรมการสมาคมเป็นผู้พิจารณามีมติด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่า ๓ ใน ๔ ของจำนวนกรรมการสมาคมที่มาประชุมและออกเสียงลงคะแนนให้สมาชิกภาพสิ้นสุด

สมาชิกที่สิ้นสุดสมาชิกภาพตามข้อ ๑๕.๒ ข้อ ๑๕.๓ ข้อ ๑๕.๕ มีสิทธิ์ยื่นคำขอแสดงความจำนงเข้าเป็นสมาชิกได้อีกเมื่อพ้นกำหนด ๑ ปี นับแต่วันที่สิ้นสุดจากการเป็นสมาชิกภาพ และหากคณะกรรมการสมาคมได้พิจารณาคำขอและไม่ยอมรับผู้นั้นเข้าเป็นสมาชิกแล้ว ผู้นั้นอาจยื่นคำขอได้อีกเพียงครั้งเดียวเมื่อพ้นกำหนด ๑ ปี นับแต่วันที่คณะกรรมการสมาคมมีมติไม่ยอมรับเป็นสมาชิก

หมวดที่ ๕

สิทธิ์และหน้าที่ของสมาชิก

ข้อ ๑๖. สมาชิกสามัญและสมาชิกวิสามัญ จะได้รับสิทธิ์และประโยชน์จากสมาคม ดังต่อไปนี้

๑. บริหารกิจการของสมาคม ในฐานะเป็นผู้คัดเลือกกรรมการสมาคม

๒. มีสิทธิ์ใช้ประโยชน์ในสถานที่ของสมาคม และอื่นๆ โดยต้องอยู่ภายในขอบเขตวัตถุประสงค์และเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่สมาคมกำหนด

๓. ได้รับข่าวสารตามที่สมาคมได้จัดทำขึ้น

๔. ประโยชน์อื่นใดที่สมาคมกำหนด

ข้อ ๑๗. สมาชิกกิตติมศักดิ์ของสมาคม ได้รับสิทธิ์และประโยชน์จากสมาคมเช่นเดียวกับสมาชิกสามัญและสมาชิกวิสามัญเว้นแต่สิทธิ์ตาม ข้อ ๑๖.๑ และ ข้อ ๑๖.๓ และสิทธิ์และประโยชน์อื่นๆ ตามที่คณะกรรมการสมาคมจะได้กำหนดขึ้น

ข้อ ๑๘. สมาชิกวิสามัญมีสิทธิ์ร้องขอต่อคณะกรรมการสมาคม เพื่อตรวจตราเอกสารบัญชีทรัพย์สินของสมาคมได้ในเวลาอันสมควร

ข้อ ๑๙. สมาชิกสามัญและสมาชิกวิสามัญย่อมมีสิทธิ์เข้าประชุมใหญ่ และมีสิทธิ์ออกเสียงลงคะแนนได้คนละหนึ่งคะแนน การออกเสียงลงคะแนนเป็นสิทธิ์เฉพาะตัวจะแต่งตั้งตัวแทนไม่ได้

ข้อ ๒๐. สมาชิกสามัญและสมาชิกวิสามัญจำนวนรวมกันตั้งแต่ ๕๐ คนขึ้นไป มีสิทธิ์ทำหนังสือร้องขอให้คณะกรรมการสมาคมเรียกประชุมวิสามัญได้ โดยต้องระบุถึงความประสงค์และวาระ ที่ต้องการขอจัดให้มีการประชุมไว้ให้ชัดเจนในหนังสือดังกล่าวด้วย

ให้คณะกรรมการสมาคมจัดการประชุมใหญ่วิสามัญภายในเวลา ๖๐ วัน นับแต่รับหนังสือร้องขอตามวรรคแรก คณะกรรมการสมาคมจะปฏิเสธการจัดประชุมวิสามัญตามที่สมาชิกร้องขอก็ได้ หากเป็นกรณีใดกรณีหนึ่งดังต่อไปนี้

๑. เป็นเรื่องที่ไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดในวรรคหนึ่ง

๒. เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับการดำเนินงานปกติของสมาคม และข้อเท็จจริงที่กล่าวอ้างโดยสมาชิกมิได้แสดงถึงเหตุอันควรสงสัยเกี่ยวกับการดำเนินงานดังกล่าว

๓. เป็นเรื่องที่อยู่นอกเหนืออำนาจที่สมาคมจะดำเนินการให้เกิดผลตามที่สมาชิกประสงค์

๔. กรณีอื่นใดตามที่คณะกรรมการสมาคมเห็นเป็นการสมควร


ข้อ ๒๑. สมาชิกมีสิทธิ์ที่จะเสนอความเห็นเกี่ยวกับกิจการของสมาคมต่อคณะกรรมการสมาคมได้

ข้อ ๒๒. สมาชิกมีสิทธิ์ประดับเครื่องหมายสมาคมได้ตามระเบียบ

ข้อ ๒๓ สมาชิกมีหน้าที่ดังต่อไปนี้คือ

๑. ปฏิบัติตามข้อบังคับและระเบียบของสมาคม

๒. ต้องรักษาคุณธรรม ความดีงาม และไม่ประพฤติเสื่อมเสีย

๓. ช่วยส่งเสริม ร่วมมือ และสนับสนุนในกิจการของสมาคม

หมวดที่ ๖

คณะกรรมการสมาคมและการพ้นจากตำแหน่ง

ข้อ ๒๔. คณะกรรมการสมาคม มีจำนวนทั้งหมดไม่เกิน ๕๕ คน มีอำนาจหน้าที่ดำเนินงานของสมาคมตามขอบเขต วัตถุประสงค์และระเบียบของสมาคม

ผู้ที่จะเป็นกรรมการสมาคมประกอบด้วยบุคคลดังต่อไปนี้

๑. สมาชิกวิสามัญที่ได้รับเลือกตั้ง จำนวนไม่เกิน ๑๐ คน ตามข้อ ............

๒. คณะกรรมการรุ่น ที่ผ่านการอบรมผู้ไกล่เกลี่ยข้อพิพาท

๓. ประธานผู้ไกล่เกลี่ยภูมิภาค ๖ ภาค ได้แก่ ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคตะวันตก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้

ข้อ ๒๕. กรรมการสมาคมชุดหนึ่ง ๆ อยู่ในตำแหน่งคราวละ ๔ ปี
หากตำแหน่งนายกสมาคมว่างลง ให้ดำเนินการสรรหาจากกรรมการสมาคมชุดนั้น และให้ดำรงตำแหน่งตามวาระที่เหลืออยู่
ในการดำรงตำแหน่งนายกสมาคม มิให้ติดต่อกันเกินกว่า ๒ วาระ

ข้อ ๒๖. กรรมการสมาคมจะขาดจากตำแหน่งโดย

๑. ถึงคราวออกตามวาระ

๒. ตาย

๓. ลาออก

๔. ขาดจากสมาชิกภาพของสมาชิก

ให้กรรมการชุดเดิมส่งมอบงานให้เสร็จสิ้นภายใน ๓๐ วัน นับแต่วันประกาศผลการคัดเลือกกรรมการสมาคมชุดใหม่

หมวดที่ ๗

อำนาจหน้าที่และการบริหารงานสมาคม

ข้อ ๒๗. ข้อตกลง สัญญาหรือนิติกรรมใดๆ ที่ได้กระทำในนามสมาคม จะมีผลผูกพันสมาคมต่อเมื่อข้อตกลง สัญญาหรือนิติกรรมนั้นๆ ได้ผ่านความเห็นชอบของคณะกรรมการสมาคม และ ไม่เป็นการขัดกับวัตถุประสงค์ ข้อบังคับ และระเบียบของสมาคม โดยมีนายกสมาคมหรืออุปนายก ที่นายกสมาคมมอบหมายเป็นกลุ่มที่หนึ่งกับเลขาธิการหรือเหรัญญิกหรือกรรมการสมาคมอื่นที่นายกสมาคมมอบหมายเป็นกลุ่มที่สองลงนามร่วมกัน ๒ คนจากกลุ่มที่หนึ่ง ๑ คน และกลุ่มที่สอง ๑ คน ทั้งนี้ เว้นแต่เป็นค่าใช้จ่ายบริหารสำนักงาน ค่าใช้จ่ายโครงการประจำ ให้เป็นไปตามระเบียบบริหารการเงินและงบประมาณของสมาคม

ข้อ ๒๘. ให้มีการประชุมกรรมการสมาคมอย่างน้อยไตรมาส ละ ๑ ครั้ง เพื่อตรวจตราการเงินและดำเนินงานของสมาคม องค์ประชุมของคณะกรรมการสมาคมต้องมีกรรมการ มาประชุมกันตั้งแต่ ๒๐ คนขึ้นไป ซึ่งจะต้องมีนายกหรืออุปนายกมาร่วมอยู่ด้วย

นายกสมาคม หรือประธานในที่ประชุม อาจกำหนดให้จัดการประชุมคณะกรรมการสมาคมเป็นการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ก็ได้ โดยการดำเนินการจะต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการตามที่กฎหมายกำหนด และตามมาตรฐานการรักษาความมั่นคงปลอดภัยด้านสารสนเทศที่กำหนดไว้ในกฎหมาย

ข้อ ๒๙. กรรมการสมาคมอาจคัดเลือกสมาชิกผู้สมควรได้รับการแต่งตั้งเป็นอนุกรรมการเฉพาะกิจการของสมาคมได้

กรรมการสมาคมอาจคัดเลือกบุคคลที่มีความเหมาะสมโดยจะมีสถานะเป็นสมาชิกสมาคมหรือไม่ก็ได้ เป็นที่ปรึกษาหรือคณะทำงานได้ตามสมควร
เสนอรายชื่อและข้อมูลต่อที่ประชุมคณะกรรมการสมาคมเพื่อพิจารณามีมติแต่งตั้ง และให้ผู้ได้รับการแต่งตั้งปฏิบัติงานตามระยะเวลาที่ได้รับมอบหมายซึ่งต้องไม่เกินกว่าวาระของคณะกรรมการสมาคมชุดที่เป็นผู้แต่งตั้งนั้น

ข้อ ๓๐. กรรมการสมาคมแต่ละตำแหน่งมีหน้าที่และความรับผิดชอบ ดังนี้ :

๑. นายกสมาคม มีหน้าที่บริหารงานสมาคม ควบคุมกิจการทั่วไปของสมาคม ให้เป็นไปตามข้อบังคับ มติ ระเบียบ นโยบายของสมาคม และตามกฎหมาย เป็นผู้แทนสมาคมในการติดต่อกับบุคคลภายนอก เป็นประธานที่ประชุมใหญ่ และการประชุมคณะกรรมการสมาคม รวมถึงเป็นผู้มีสิทธิ์ออกเสียงชี้ขาดเมื่อคะแนนเสียงในที่ประชุมเท่ากัน

๒. อุปนายก มีหน้าที่ปฏิบัติงานแทนนายกสมาคมตามที่นายกสมาคมมอบหมาย และในกรณีที่นายกสมาคมไม่อยู่หรือไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้อุปนายกในลำดับอาวุโสตามคำสั่งนายกสมาคมเป็นผู้ปฏิบัติงานแทน

๓. เลขาธิการ มีหน้าที่ดำเนินงานของสมาคมตามที่นายก หรืออุปนายกมอบหมายให้ อีกทั้งมีหน้าที่ติดต่อกับสมาชิก และบุคคลภายนอกในกิจการของสมาคม ดำเนินการให้เป็นไปตามระเบียบข้อบังคับของสมาคม เรียกประชุม บันทึกการประชุม เก็บรักษารายงานการประชุม และโต้ตอบจดหมายอันเกี่ยวกับกิจการของสมาคมตามมติของที่ประชุมคณะกรรมการสมาคม รับผิดชอบเกี่ยวกับงานพัสดุ และทรัพย์สินของสมาคม ทำบัญชีทรัพย์สิน สำรวจทรัพย์สินประจำปี และกิจการอื่นๆ ตามที่คณะกรรมการสมาคมมอบหมาย

๔. เหรัญญิก มีหน้าที่ด้านการเงินและบัญชีของสมาคม กำกับดูแลการเก็บ การรักษาเงิน การทวงหนี้และชำระหนี้ของสมาคม การออกใบเสร็จรับเงินทุกประเภท และการจัดทำรายงานการเงินประจำปี ให้ผู้สอบบัญชีตรวจสอบและรับรองเพื่อนำเสนอที่ประชุมใหญ่พิจารณารับรอง ตลอดจนจัดให้มีสมุดบัญชีและเอกสารทางการเงินของสมาคม พร้อมด้วยหลักฐานและใบสำคัญในการรับและจ่ายเงินให้ถูกต้องตามหลักการบัญชี และการเก็บเอกสารหลักฐานต่างๆ ของสมาคมไว้เพื่อตรวจสอบ

๕. นายทะเบียน มีหน้าที่จัดทำทะเบียนประวัติสมาชิก และทำเนียบสมาชิกสมาคม

๖. สาราณียกร มีหน้าที่จัดทำรายงานประจำปี ตลอดจนงานสื่อสารทุกประเภท จัดทำวารสารหรือข่าวสารเกี่ยวกับสมาคม เพื่อแจกจ่าย หรือจำหน่ายแก่สมาชิก ตามที่คณะกรรมการสมาคมมอบหมาย

๗. ปฏิคม มีหน้าที่อำนวยความสะดวกให้สมาชิกและผู้ร่วมในกิจการสมาคม ตลอดจนจัดกิจกรรมและงานสังคมที่สมาคมจัดขึ้น

๘. ประชาสัมพันธ์ มีหน้าที่เผยแพร่ประชาสัมพันธ์ข่าวสาร และกิจกรรมของสมาคม เพื่อประโยชน์และสร้างความสัมพันธ์ระหว่างสมาชิก ตลอดจนงานสื่อสารทุกประเภท จัดทำวารสารหรือข่าวสารเกี่ยวกับสมาคม เพื่อแจกจ่ายหรือจำหน่ายแก่สมาชิก ตามที่คณะกรรมการสมาคมมอบหมาย

กรรมการกลาง มีหน้าที่ให้ความคิดเห็น และร่วมรับผิดชอบการดำเนินงานของสมาคมให้บรรลุตามวัตถุประสงค์อันเป็นประโยชน์ต่อสมาคม

ข้อ ๓๑. การบริหารการเงินของสมาคมให้เป็นไปตามระเบียบการบริหารการเงินของสมาคม ซึ่งได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการสมาคม และเสนอระเบียบให้ที่ประชุมใหญ่ทราบ

ข้อ ๓๒. ให้ที่ประชุมใหญ่แต่งตั้งผู้สอบบัญชี ๑ คน และกำหนดค่าสอบบัญชีประจำปี

หมวดที่ ๘

การประชุมใหญ่

ข้อ ๓๓. เนื่องจากรอบบัญชีของสมาคมเริ่มตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคมของทุกปี จึงให้มีการประชุมใหญ่สามัญประจำปี ปีละหนึ่งครั้ง โดยปกติภายในเดือนเมษายนของทุกปี

การประชุมใหญ่ต้องมีสมาชิกสามัญและสมาชิกวิสามัญร่วมประชุมไม่น้อยกว่า ๑๐๐ คน ซึ่งในจำนวนนี้ต้องมีกรรมการสมาคมร่วมประชุม ไม่น้อยกว่า ๒๐ คน จึงจะถือเป็น องค์ประชุมได้ ถ้าสมาชิกไม่ครบองค์ประชุมให้เรียกประชุมอีกครั้งหนึ่งภายใน ๓๐ วัน โดยมีจำนวนสมาชิก ร่วมประชุมเท่าใดก็ให้ถือว่าครบองค์ประชุม

นายกสมาคม หรือประธานในที่ประชุม อาจกำหนดให้จัดการประชุมเป็นการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ก็ได้ โดยการดำเนินการจะต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการตามที่กฎหมายกำหนด และตามมาตรฐานการรักษาความมั่นคงปลอดภัยด้านสารสนเทศที่กำหนดไว้ในกฎหมาย

การลงมติต่างๆ ในที่ประชุมใหญ่ หากข้อบังคับมิได้กำหนดไว้เป็นอย่างอื่น ให้ถือเสียงข้างมากเป็นเกณฑ์ กรณีที่คะแนนเสียงเท่ากันให้ประธานในที่ประชุมใหญ่เป็นผู้ชี้ขาด

ข้อ ๓๔ การประชุมสมาชิกวิสามัญเพื่อเลือกตั้งกรรมการสมาคม ตามข้อ ๒๔ ต้องมีสมาชิกวิสามัญร่วมประชุมไม่น้อยกว่า ๕๐ คน ซึ่งในจำนวนนี้ต้องมีกรรมการสมาคมร่วมประชุมไม่น้อยกว่า ๑๐ คน จึงจะถือเป็นองค์ประชุมได้ ถ้าสมาชิกวิสามัญไม่ครบองค์ประชุมให้เรียกประชุมอีกครั้งหนึ่งภายใน ๑๔ วัน โดยมีจำนวนสมาชิกวิสามัญร่วมประชุมเท่าใดก็ได้ให้ถือว่าครบองค์ประชุม

ข้อ ๓๕. การประชุมใหญ่ดังกล่าวในข้อ ๓๓ นั้น ให้เลขาธิการโดยอนุมัติของคณะกรรมการสมาคมประกาศกำหนดวัน เวลา วิธีการประชุม และสถานที่ที่จะประชุมแจ้งให้สมาชิกสามัญและสมาชิกวิสามัญทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า ๑๕ วัน ก่อนกำหนดวันประชุม

การประกาศตามวรรคแรก อาจดำเนินการโดยประกาศในหนังสือพิมพ์รายวันและทางเว็บไซต์สมาคม หรือที่อยู่ทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือไปรษณีย์ตามที่สมาชิกแจ้งในข้อมูลทะเบียนสมาคม หรือตามวิธีการอื่นที่คณะกรรมการสมาคมเห็นสมควร

ข้อ ๓๖. ให้คณะกรรมการสมาคมเป็นผู้ทำรายงานประจำปีรวมเรื่องราวกิจการงานแต่ละอย่างตามวัตถุประสงค์ ตลอดจนแสดงงบดุลประจำปี เพื่อสมาชิกสามัญและสมาชิกวิสามัญทั้งหลายอาจตรวจดูได้ไม่น้อยกว่า ๗ วันก่อนวันประชุมใหญ่ หรือเผยแพร่ลงในเว็บไซต์สมาคมเพื่อประโยชน์แก่การตรวจสอบของสมาชิก

ข้อ ๓๗. นอกจากการประชุมใหญ่สามัญประจำปีดังกล่าวแล้ว หากมีกรณีพิเศษในปีใด ที่กรรมการสมาคมเห็นสมควร อาจจัดให้มีการประชุมใหญ่วิสามัญด้วยก็ได้ แต่การเรียกประชุมใหญ่วิสามัญนี้ ให้ระบุความประสงค์ที่จะต้องการประชุมโดยชัดแจ้งให้สมาชิกทราบพร้อมกันไปด้วย โดยให้นำความในข้อ ๓๓ และข้อ ๓๕ มาใช้บังคับโดยอนุโลม

หมวดที่ ๙

การแก้ไขข้อบังคับและวางระเบียบ

ข้อ ๓๘. ห้ามมิให้ตั้งข้อบังคับขึ้นใหม่ หรือเพิ่มเติมแก้ไขดัดแปลงข้อบังคับนี้ นอกจากกระทำโดยที่ประชุมใหญ่ด้วยมติสองในสามของจำนวนสมาชิกที่มาประชุม

ข้อ ๓๙. นอกจากข้อบังคับนี้จะกำหนดเป็นอย่างอื่น ให้กรรมการสมาคมมีอำนาจ วางระเบียบการที่ไม่ขัดหรือแย้งกับข้อบังคับ เพื่อจัดการให้เป็นไปตามความประสงค์แห่ง ข้อบังคับนี้

หมวดที่ ๑๐

การเลิกสมาคมและการชำระบัญชี

ข้อ ๔๐. ถ้าสมาคมต้องเลิกด้วยเหตุผลใดก็ตาม ให้ทรัพย์สินทั้งหมดของสมาคมตกเป็นของมหาวิทยาลัย มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

บทเฉพาะกาล

ข้อ๔๑ ผู้ไกล่เกลี่ยข้อพิพาท ที่ผ่านการอบรมหลักสูตรผู้ไกล่เกลี่ยข้อพิพาท (พุทธสันติวิธี) มหาวิทยาลัย มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ทั้ง ๘ รุ่น เป็นผู้ก่อตั้งสมาคมนี้ ข้อ ๔๒ การประชุมร่วมกันของคณะกรรมการรุ่น ทั้ง ๘ รุ่น ที่รวมกันประชุมไม่น้อยกว่า ๕๐ คน แล้วมีมติจดทะเบียนสมาคมนี้ และดำเนินการจดทะเบียนสมาคมตามกฎหมาย จัดว่าเป็นสมาชิกสมาคมที่นำเข้าจดแจ้งสมาคม เป็นคณะกรรมการชุดแรกของสมาคม


……………………………………..