ผลต่างระหว่างรุ่นของ "บันทึกปัญหาปี ๒๕๔๙ โดยพระครูปริยัติกิตติวรรณ"
ไปยังการนำทาง
ไปยังการค้นหา
Weera2533 (คุย | มีส่วนร่วม) |
Weera2533 (คุย | มีส่วนร่วม) |
||
แถว 39: | แถว 39: | ||
::วันที่ 2 เมษายน 2559 ได้รับการแต่งตั้งให้เป็น ผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดเพชรบุรี ทันทีที่ได้รับการแต่งตั้ง จิตวิญญาณของความรับผิดชอบวัดเพชรบุรีก็ครอบงำ | ::วันที่ 2 เมษายน 2559 ได้รับการแต่งตั้งให้เป็น ผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดเพชรบุรี ทันทีที่ได้รับการแต่งตั้ง จิตวิญญาณของความรับผิดชอบวัดเพชรบุรีก็ครอบงำ | ||
::วันที่ 9 เมษายน 2559 ถูกถอดถอนจากผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดเพชรบุรี แล้วมีหน้าที่ดูแลปราสาทเพชรเท่านั้น ความรู้สึกทุกข์ร้อนไปกับพระลูกวัดเพชรบุรีทุกรูปที่ต้องการการปรองดอง จิตวิญญาณหลวงปู่ยิ่งสิงสถิตลึกขึ้น | ::วันที่ 9 เมษายน 2559 ถูกถอดถอนจากผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดเพชรบุรี แล้วมีหน้าที่ดูแลปราสาทเพชรเท่านั้น ความรู้สึกทุกข์ร้อนไปกับพระลูกวัดเพชรบุรีทุกรูปที่ต้องการการปรองดอง จิตวิญญาณหลวงปู่ยิ่งสิงสถิตลึกขึ้น | ||
− | ::วันที่ 3 | + | ::วันที่ 3 พฤษภาคม 2559 ถูกถอดถอนตัดขาดความผูกพันจากปราสาทเพชรอีก แต่ก็ไม่สามารถถอดถอดจากจิตวิญญาณที่ถูกสร้างแล้วในระยะ 1 เดือน |
::วันนี้ยิ่งรู้สึกว่า เจ้าอาวาสวัดเพชรบุรี มิใช่พระสมชาย พระสมชายเหมือนพระแปลกหน้ามาจากแดนอื่นเพียงได้อำนาจวัดไว้ในครอบครอง พระลูกวัดต่างหากคือ เจ้าอาวาสตัวจริง มีความห่วงใยวัดมากที่สุด <br> | ::วันนี้ยิ่งรู้สึกว่า เจ้าอาวาสวัดเพชรบุรี มิใช่พระสมชาย พระสมชายเหมือนพระแปลกหน้ามาจากแดนอื่นเพียงได้อำนาจวัดไว้ในครอบครอง พระลูกวัดต่างหากคือ เจ้าอาวาสตัวจริง มีความห่วงใยวัดมากที่สุด <br> | ||
8/5/2559 | 8/5/2559 |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 19:32, 6 มีนาคม 2565
- เรื่อง ก่อกวน สร้างความรำคาญ ทำลายบรรยากาศสถานที่บำเพ็ญบุญกุศล ณ ปราสาทเพชร สุสานทุ่งมน
- อาตมภาพ พระครูปริยัติกิตติวรรณ (พระมหาวีระ กิตติวณโณ) เจ้าอาวาสวัดสะเดารัตนาราม ต.ทุ่งมน อ.ปราสาท ได้รับการมอบอำนาจให้ดูแลปราสาทเพชรสุสานทุ่งมน ให้เป็นผู้ดูแลบริหารจัดการสถานที่ดังกล่าวแทน ขอให้พระภิกษุและคฤหัสถ์ที่มีหน้าที่เกี่ยวข้อง ณ สถานที่นั้น จงเชื่อฟังปฏิบัติตามกฎระเบียบที่ผู้รับมอบอำนาจวางไว้ เนื่องจากผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดเพชรบุรี ได้บริหารดูแลปราสาทเพชรสุสานทุ่งมนเป็นเวลาสองปีกว่าแล้ว ไม่สามารถจัดระเบียบให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ได้ จากผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดเพชรบุรี ต.สมุด อ.ปราสาท เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2559 เมื่อได้รับมอบอำนาจแล้วพิจารณาเห็นว่า นายทวีศักดิ์ ยงยิ่งยืน ได้ทำการใช้ลูกน้องบริวาร ก่อกวน สร้างความรำคาญ ทำลายบรรยากาศสถานที่บำเพ็ญบุญกุศล ณ ปราสาทเพชร สุสานทุ่งมน พิจารณาดูแล้วเห็นว่าควรร้องทุกข์ให้เป็นทุกข์สาธารณะ เรียนรู้ร่วมกันทั้งชุมชนและสังคมโดยกว้าง จึงร้องทุกข์มาเป็นลายลักษณ์อักษรไว้และดำเนินการต่อไปให้เคลื่อนกันทั้งสังคม
ร้องทุกข์ต่อ ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสุรินทร์
22/4/2559
- วัดเพชรบุรี ต.สมุด
- อ.ปราสาท
- ๑ พฤษภาคม ๒๕๕๙
- คณะสงฆ์......มีมติที่หนักแน่นมั่นคงชัดเจน ว่า การบริหารปราสาทเพชร ยึดธรรมาภิบาล จะไม่ปัดความรับผิดชอบต่อกิจการงานที่ผ่านพ้น เยียวยารักษาจิตใจผู้คน ไม่เหยียบซ้ำทำลายล้างกดทับ ปลดปล่อยศักยภาพพระสงฆ์ ยึดมติในการทำงาน เปิดเผย โปร่งใส ขยายวงกว้างสร้างการมีส่วนร่วม ชี้บอกแจ่มแจ้งว่า ปราสาทเพชร ที่พักสงฆ์ ของวัดเพชรบุรี มีพระมหาอนันต์ จิรวฑฺฒโน เป็นประธานสงฆ์ บริหารจัดการให้เรียบร้อยตามมติคณะสงฆ์.....
- ร้องทุกข์ ขอใช้คำนี้อย่างชัดเจน ชัดคำ มิใช่ร้องเรียน มิใช่ร้องเรียก มิใช่ท้าทาย ขอร้องทุกข์ ขออ้อน วางใจในฐานะผู้เลี้ยงชีวิตด้วยคำข้าวจากชาวบ้าน คำอ้อนจากผู้อ่อนแรงกว่า ขอความเมตตาจากผู้ก่อปัญหา ผู้กุมเงื่อนไขอย่างที่สุด ขอให้ท่านนั้นมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาที่หนักใจนี้ด้วยอย่างเต็มใจและเต็มที่ หนักใจยิ่งนักว่าความขัดแย้งมีผลกระทบต่อหลวงปู่ผู้เป็นพระอุปัชฌาย์ ผู้เปี่ยมเมตตาต่ออาตมภาพและชุมชน หนักใจว่าคณะสงฆ์จะขาดโอกาสในการพัฒนาตนเพราะมัวกังวลในปัญหาของวัดและชุมชน
3/5/2559
- เส้นทางเดินวัดเพชรบุรี ปราสาทเพชร
- - วัดเพชรบุรีมีปัญหา มา ๒ ปี แก้ไม่ได้
- - พระผู้ปกครองยกโอกาสให้แก้ไขปัญหา รับหน้าที่นั้น
- - ตั้งเป้าหมายปลดหนี้วัด
- - หนี้มีจำนวนมาก ลำบาก ยากมากในการปลดหนี้
- - วิธีทำงาน ให้พระมีบทบาท เป็นหลัก จึงจะปลดหนี้ได้ หรือพัฒนาต่อได้
- - พระจะมีกำลังใจทำงานปลดหนี้ ต้องมีกำลังใจ ได้แสดงอุดมการณ์ มีส่วนร่วมบริหาร
- - การปรองดองสนองวิถีชีวิตพระภิกษุ
- - การปรองดองกระทบความคิดของไวยาวัจกร และทนายความ
- ๔ พฤษภาคม ๒๕๔๙
- เงื่อนไขที่แตกต่างกัน นำสู่ความคิด ความเห็นที่แตกต่างกัน
- ความคิด ความเห็นที่แตกต่างกัน เวลาจะแก้ไขปัญหา จึงมองเห็นแนวทางที่แตกต่างกัน
- เพราะมีแนวทางที่แตกต่างกัน การกำหนดวิธีการจึงขัดกัน
- เพราะวิธีการที่ขัดกัน ก่อให้เกิดบรรยากาศแห่งความขัดแย้ง
- เงื่อนไขสำคัญของวัดเพชรบุรี คือ ความเป็นเจ้าองค์องค์กรต้นสังกัดหลวงปู่หงษ์
- เงื่อนไขสำคัญของคณะสุสาน คือ ความใกล้ชิด เป็นผู้ดำเนินงาน ลงแรงระดมทุน เรียกศรัทธา สร้างเครือข่าย รักษาแนวคิดหลวงปู่หงษ์
- บนเงื่อนไขนี้ดำเนินการมา 2 ปี
- วันที่ 2 เมษายน 2559 ได้รับการแต่งตั้งให้เป็น ผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดเพชรบุรี ทันทีที่ได้รับการแต่งตั้ง จิตวิญญาณของความรับผิดชอบวัดเพชรบุรีก็ครอบงำ
- วันที่ 9 เมษายน 2559 ถูกถอดถอนจากผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดเพชรบุรี แล้วมีหน้าที่ดูแลปราสาทเพชรเท่านั้น ความรู้สึกทุกข์ร้อนไปกับพระลูกวัดเพชรบุรีทุกรูปที่ต้องการการปรองดอง จิตวิญญาณหลวงปู่ยิ่งสิงสถิตลึกขึ้น
- วันที่ 3 พฤษภาคม 2559 ถูกถอดถอนตัดขาดความผูกพันจากปราสาทเพชรอีก แต่ก็ไม่สามารถถอดถอดจากจิตวิญญาณที่ถูกสร้างแล้วในระยะ 1 เดือน
- วันนี้ยิ่งรู้สึกว่า เจ้าอาวาสวัดเพชรบุรี มิใช่พระสมชาย พระสมชายเหมือนพระแปลกหน้ามาจากแดนอื่นเพียงได้อำนาจวัดไว้ในครอบครอง พระลูกวัดต่างหากคือ เจ้าอาวาสตัวจริง มีความห่วงใยวัดมากที่สุด
8/5/2559
- พระลูกวัดเพชร ต้องการปรองดองครับ ฝ่ายสุสานอ่อนแรงแล้วต้องการปรองดองด้วย ฝ่ายวัดเจ็บใจช่วงต้น ๆ เลยไม่ขอปรองดอง ขอให้คดีถึงที่สุดก่อน ฝ่ายสุสานว่าถ้าไม่ปรองดอง จะไม่ช่วยจ่ายหนี้ จะไม่ยอมให้เงิน จะขับไล่ผู้อยู่สูงสุดของความคิดยึดกฎหมาย วัดขณะนี้มีหนี้เพราะสู้คดีแล้ว 5 ล้าน คนที่วิ่งทางสุสานคือคนที่อยู่ข้างวัดเดิม เมื่อเห็นทนายและไวยาวัจกรใช้เงินแบบไม่งาม ใช้ผิด ใช้มาก จึงออกมาอยู่ตรงข้าม ไวยาวัจกรทั้ง 4 คน ไม่มีคุณสมบัติของอุบาสก ไม่ผ่านการกลั่นกรองของคณะสงฆ์ ออกทางนักเลง โทสจริต กีดกันสังคมในการร่วมคิดร่วมแก้ปัญหา นางรัตนาแกนนำฝ่ายสุสานกับไวยาวัจกร ทนาย ต่างเห็นไส้เห็นพุงกัน จึงข่มกันอยู่เนือง ๆ สู้กันเอง ต่างไม่ยอมกัน แต่กระทบชุมชนกว้าง เจ้าคณะตำบลออกความเห็นทางวัดบ่อย ๆ และร่วมตัดสินใจตลอดมาจึงติดกับความคิดของตน นางรัตนาไล่ทนาย ไล่ไวยาวัจกรไม่ได้ หรือต้องการจะประจานทนาย ไวยาวัจกร เมื่อยาก ก็จะยกขบวนไล่เจ้าคณะตำบล ผมและพระลูกวัดเพชรต้องการปรองดองเหมือนนางรัตนาจึงต้องคอยเบี่ยงความคิดการยกขบวนประท้วงของนางรัตนา แนวคิดไล่มีมาก่อนผมเข้ามาร่วมรู้เห็น
- พระลูกวัดเพชร ต้องการปรองดองครับ ฝ่ายสุสานอ่อนแรงแล้วต้องการปรองดองด้วย ฝ่ายวัดเจ็บใจช่วงต้น ๆ เลยไม่ขอปรองดอง ขอให้คดีถึงที่สุดก่อน ฝ่ายสุสานว่าถ้าไม่ปรองดอง จะไม่ช่วยจ่ายหนี้ จะไม่ยอมให้เงิน จะขับไล่ผู้อยู่สูงสุดของความคิดยึดกฎหมาย วัดขณะนี้มีหนี้เพราะสู้คดีแล้ว 5 ล้าน คนที่วิ่งทางสุสานคือคนที่อยู่ข้างวัดเดิม เมื่อเห็นทนายและไวยาวัจกรใช้เงินแบบไม่งาม ใช้ผิด ใช้มาก จึงออกมาอยู่ตรงข้าม ไวยาวัจกรทั้ง 4 คน ไม่มีคุณสมบัติของอุบาสก ไม่ผ่านการกลั่นกรองของคณะสงฆ์ ออกทางนักเลง โทสจริต กีดกันสังคมในการร่วมคิดร่วมแก้ปัญหา นางรัตนาแกนนำฝ่ายสุสานกับไวยาวัจกร ทนาย ต่างเห็นไส้เห็นพุงกัน จึงข่มกันอยู่เนือง ๆ สู้กันเอง ต่างไม่ยอมกัน แต่กระทบชุมชนกว้าง เจ้าคณะตำบลออกความเห็นทางวัดบ่อย ๆ และร่วมตัดสินใจตลอดมาจึงติดกับความคิดของตน นางรัตนาไล่ทนาย ไล่ไวยาวัจกรไม่ได้ หรือต้องการจะประจานทนาย ไวยาวัจกร เมื่อยาก ก็จะยกขบวนไล่เจ้าคณะตำบล ผมและพระลูกวัดเพชรต้องการปรองดองเหมือนนางรัตนาจึงต้องคอยเบี่ยงความคิดการยกขบวนประท้วงของนางรัตนา แนวคิดไล่มีมาก่อนผมเข้ามาร่วมรู้เห็น
8/5/2559