ผลต่างระหว่างรุ่นของ "สมาธิ"
Weera2533 (คุย | มีส่วนร่วม) |
Weera2533 (คุย | มีส่วนร่วม) |
||
แถว 1: | แถว 1: | ||
− | + | ในธรรมชาติของจิตที่ทำหน้าที่คิด <br> | |
− | + | ถ้าผู้ใดขาดสมาธิ หรือขาดสมถะ(ความนิ่งและสงบของจิต) ผู้นั้นจะรู้สึกว่าความคิดมากเป็นทุกข์ จึงมีการนำสารกล่อม สารกด ประสาทเข้าร่างกาย เพื่อทำลายกระบวนการทำงานของจิตเสีย<br> | |
− | + | ส่วนผู้ใดฝึกจิตให้สงบ ราบเรียบ นิ่ง ได้สม่ำเสมอแล้ว ความคิดใด ๆ ที่เกิดขึ้นตามหน้าที่ของจิต แม้จะมากเพียงใดก็ไม่ก่อทุกข์ เพราะมีความเสถียรแล้ว เสมือนเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องอิเล็กทรอนิกส์ที่ได้รับความเย็นหล่อเลี้ยง หรือจะเหมือนเครื่องยนต์ที่มีการหล่อเย็น มีหม้อน้ำที่ปกติอยู่<br> | |
− | + | ความคิดที่ปราศจากความเยือกเย็นของสมาธิจะเกิดความร้อนภายในจนบีบคั้นให้ต้องทำการใดผิดศีล หรือการนำสารอื่น ๆ เข้าทำลายความคิดดังที่ว่า<br> | |
− | + | อาจสรุปได้ว่าสมาธิคือธาตุน้ำคือความเยือกเย็นคืออุณหภูมิที่เย็นเป็นประโยชน์ต่อธาตุอื่น ๆ ให้ปกติ ทำงานต่อไปได้อย่างต่อเนื่อง<br> | |
18 พฤศจิกายน 2566 | 18 พฤศจิกายน 2566 | ||
+ | <br> | ||
+ | ในเมื่อเครื่องส่งวิทยุ 500 วัตต์ ยังต้องเปิดแอร์ให้<br> | ||
+ | ในเมื่อเครื่องขยายเสียงจำต้องเปิดพัดลมให้<br> | ||
+ | ในเมื่อคอมพิวเตอร์ถ้าได้แอร์เย็น ๆ จะทำงานเสถียรขึ้น<br> | ||
+ | ในเมื่อเราเตอร์อินเตอร์เน็ตยังต้องหล่อเย็นหรือเปิดพัดลมหรือเปิดแอร์ให้<br> | ||
+ | ในเมื่อรถยนต์เวลาวิ่งต้องมีหม้อน้ำไว้หล่อเลี้ยงลดความร้อนให้แก่เครื่องยนต์<br> | ||
+ | ในเมื่อเวลาตัวเรารู้สึกร้อนยังต้องเปิดพัดลมหรือเปิดแอร์<br> | ||
− | + | ความร้อนถ้าเกิดขึ้นสะสม หรือมีอุณหภูมิเพิ่มขึ้น จะทำให้อุปกรณ์หรือกลไกเครื่องจักร อิเล็กทรอนิกส์นั้นไม่สมดุลเหมาะแก่การเหนี่ยวนำที่พอดี อันก่อให้เกิดความรวนหรือแฮงค์ได้<br> | |
− | |||
− | |||
− | |||
− | |||
− | |||
− | + | การขับเคลื่อนเครื่องกลไกใด ๆ หรือในร่างกายของคนเราจำต้องใช้พลังงาน นั่นคือต้องใช้ความร้อน อุณหภูมิ หรือกระบวนการเสียดทาน การเคลื่อนตัวภายในตลอดเวลาของอะตอม (ไตรลักษณ์) <br> | |
+ | สิ่งที่ต้องคู่กันคือน้ำ หรือความเย็น ต้องเข้าช่วยดับร้อนนั้น เพื่อให้ความร้อนที่เกิดขึ้นมีความเสถียร ไม่ร้อนสะสม หรือไม่ร้อนจนเป็นพ้นโทษแค่ตัววัสดุ อุปกรณ์ ตนเอง <br> | ||
− | + | ไฉนเลยจิตที่มีหน้าที่ในการคิดตลอดเวลาจำเป็นจึงจำเป็นต้องมีสมาธิหรือความนิ่งความราบเรียบเสมือนน้ำที่หล่อเย็น<br> | |
− | |||
− | + | อาจสรุปสุดท้ายว่าการทำสมาธิการฝึกจิตให้สงบจะเหมาะแก่การงานทั้งปวงจะเหมาะแก่การงานทั้งปวง<br> | |
− | + | 18 พฤศจิกายน 2566<br> | |
− | |||
− |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 01:44, 18 พฤศจิกายน 2566
ในธรรมชาติของจิตที่ทำหน้าที่คิด
ถ้าผู้ใดขาดสมาธิ หรือขาดสมถะ(ความนิ่งและสงบของจิต) ผู้นั้นจะรู้สึกว่าความคิดมากเป็นทุกข์ จึงมีการนำสารกล่อม สารกด ประสาทเข้าร่างกาย เพื่อทำลายกระบวนการทำงานของจิตเสีย
ส่วนผู้ใดฝึกจิตให้สงบ ราบเรียบ นิ่ง ได้สม่ำเสมอแล้ว ความคิดใด ๆ ที่เกิดขึ้นตามหน้าที่ของจิต แม้จะมากเพียงใดก็ไม่ก่อทุกข์ เพราะมีความเสถียรแล้ว เสมือนเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องอิเล็กทรอนิกส์ที่ได้รับความเย็นหล่อเลี้ยง หรือจะเหมือนเครื่องยนต์ที่มีการหล่อเย็น มีหม้อน้ำที่ปกติอยู่
ความคิดที่ปราศจากความเยือกเย็นของสมาธิจะเกิดความร้อนภายในจนบีบคั้นให้ต้องทำการใดผิดศีล หรือการนำสารอื่น ๆ เข้าทำลายความคิดดังที่ว่า
อาจสรุปได้ว่าสมาธิคือธาตุน้ำคือความเยือกเย็นคืออุณหภูมิที่เย็นเป็นประโยชน์ต่อธาตุอื่น ๆ ให้ปกติ ทำงานต่อไปได้อย่างต่อเนื่อง
18 พฤศจิกายน 2566
ในเมื่อเครื่องส่งวิทยุ 500 วัตต์ ยังต้องเปิดแอร์ให้
ในเมื่อเครื่องขยายเสียงจำต้องเปิดพัดลมให้
ในเมื่อคอมพิวเตอร์ถ้าได้แอร์เย็น ๆ จะทำงานเสถียรขึ้น
ในเมื่อเราเตอร์อินเตอร์เน็ตยังต้องหล่อเย็นหรือเปิดพัดลมหรือเปิดแอร์ให้
ในเมื่อรถยนต์เวลาวิ่งต้องมีหม้อน้ำไว้หล่อเลี้ยงลดความร้อนให้แก่เครื่องยนต์
ในเมื่อเวลาตัวเรารู้สึกร้อนยังต้องเปิดพัดลมหรือเปิดแอร์
ความร้อนถ้าเกิดขึ้นสะสม หรือมีอุณหภูมิเพิ่มขึ้น จะทำให้อุปกรณ์หรือกลไกเครื่องจักร อิเล็กทรอนิกส์นั้นไม่สมดุลเหมาะแก่การเหนี่ยวนำที่พอดี อันก่อให้เกิดความรวนหรือแฮงค์ได้
การขับเคลื่อนเครื่องกลไกใด ๆ หรือในร่างกายของคนเราจำต้องใช้พลังงาน นั่นคือต้องใช้ความร้อน อุณหภูมิ หรือกระบวนการเสียดทาน การเคลื่อนตัวภายในตลอดเวลาของอะตอม (ไตรลักษณ์)
สิ่งที่ต้องคู่กันคือน้ำ หรือความเย็น ต้องเข้าช่วยดับร้อนนั้น เพื่อให้ความร้อนที่เกิดขึ้นมีความเสถียร ไม่ร้อนสะสม หรือไม่ร้อนจนเป็นพ้นโทษแค่ตัววัสดุ อุปกรณ์ ตนเอง
ไฉนเลยจิตที่มีหน้าที่ในการคิดตลอดเวลาจำเป็นจึงจำเป็นต้องมีสมาธิหรือความนิ่งความราบเรียบเสมือนน้ำที่หล่อเย็น
อาจสรุปสุดท้ายว่าการทำสมาธิการฝึกจิตให้สงบจะเหมาะแก่การงานทั้งปวงจะเหมาะแก่การงานทั้งปวง
18 พฤศจิกายน 2566