สุขภาพใจพระครูปริยัติกิตติวรรณ 2568

ร่วมกันสร้างพลังบวกให้กับตนและชุมชน เราจะไม่โยนภาระการแก้ปัญหาให้กับคนใดคนหนึ่ง หรือองค์กรใดองค์กรหนึ่ง แต่เราจะเป็นผู้หนึ่งที่จะเข้าไปร่วมแก้ปัญหานั้นด้วยตนเอง
เราต้องสร้างภาวะผู้นำอยู่ที่เราไม่ใช่ผู้ตาม
ก่อนเข้าไปแก้ปัญหา ต้องกล้าเข้าไป และใจเย็นพอ (ฝึกสมาธิให้ได้ หรือนั่งสมาธิก่อนเผชิญปัญหา เพื่อจะเจียรปัญหาได้ง่ายขึ้น)
นอกจากใจเย็นแล้ว ต้องมีหลักการที่ใช่ด้วย

กตัญญู คือทางรอด
ความกตัญญู นำความอ่อนโยนมาให้
ความกตัญญู นำปัญญามาให้

11 เมษายน 2568

เมื่อครั้งบวชใหม่ ๆ มีความคิดว่าจะช่วยชาวบ้านให้ลดความยากจน มีกิน มีใช้ ครอบครัวอบอุ่น จึงเป็นเหตุให้มีความพยายามพาลด ละ เลิก อบายมุข และดำเนินการการเงินที่โปร่งใส
แต่การทำงานก็ไม่อาจจะเรียนรู้ทันกัน บอกกล่าวให้เข้าใจได้หมด หลังจากสะสมประสบการณ์มากพอสมควรแล้ว และคงจะถึงโอกาสที่เหมาะสมกับสถานการณ์วันนี้
หวังจะช่วยญาติโยมสามารถดำเนินชีวิตแก้ทุกข์ได้บ้าง
จึงขอเชิญชวนท่านที่แข็งแรง ๆ คล่องตัว มีจิตอาสา มีจิตสาธารณะ ฉลาดทางอารมณ์ ได้ร่วมแก้ทุกข์แก่ชุมชนผ่าน "ชมรม เครือข่ายเจ้าหน้าที่และอาสาสมัคร ตำบลทุ่งมน-ตำบลสมุด" โดยมีภารกิจ ดังต่อไปนี้
"ชมรม เครือข่ายเจ้าหน้าที่และอาสาสมัคร ตำบลทุ่งมน-ตำบลสมุด" มีภารกิจดังนี้
1.ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในชุมชน
2.ช่วยงานตามภารกิจตำรวจ สภ.ทุ่งมน
3.ช่วยงานตามภารกิจฝ่ายปกครอง ตำบล หมู่บ้าน มั่นคง ยั่งยืน
4.แจ้งเหตุความไม่สงบความไม่เป็นระเบียบเรียบร้อยต่าง ๆ สาธารณภัยต่าง ๆ
5.ดูแลป่าชุมชน ป่าไม้ ทรัพยากรต่าง ๆ
6.จัดการขยะริมทางและขยะชุมชน
7.ดูแลสุขภาพ ผู้ติดเตียง ผู้สูงอายุ
8.จัดการงานศพแบบประหยัด และฌาปนกิจสงเคราะห์ ศพละ 20 บาท
9.ประสานงานต่าง ๆ เพื่อกิจกรรมชุมชน
10.ประชาสัมพันธ์กลุ่มอาหารปลอดภัย
11. บำเพ็ญสาธารณประโยชน์อื่น ๆ

ก่อนทอดผ้าป่าสามัคคี 4-5 วัน เพียรถามใจของตนเองว่า เมื่อปลดหนี้ 3 อย่าง 90,000 บาท ได้แล้วสภาพจิตจะเป็นอย่างไร
แต่มาวันนี้ เงินของเจ้าภาพทุกท่าน สามารถตั้งกองทุนพระคิลานุปัฏฐาก ได้ถึง 150,000 บาท และยังปลดหนี้เตาเผาศพ ได้อีก 50,000 บาท
บวกกับการปรึกษาแนวทางก่อตัวเครือข่ายวิทยุสื่อสารเพื่อเสริมพลังชุมชนอีกครั้ง
จิตใจมีพลังมากขึ้น

17 เมษายน 2567