ผลต่างระหว่างรุ่นของ "จุดเปลี่ยนการจัดการวัด 2567 เป็นต้นไป"
Weera2533 (คุย | มีส่วนร่วม) |
Weera2533 (คุย | มีส่วนร่วม) |
||
แถว 178: | แถว 178: | ||
มีแนวคิด พาพระไปรู้จักบุคคลที่มีกำลังใจ หรือ คนต้นแบบต่าง ๆ<br> | มีแนวคิด พาพระไปรู้จักบุคคลที่มีกำลังใจ หรือ คนต้นแบบต่าง ๆ<br> | ||
แนวคิด ให้พระแสดงความตั้งใจทุกครั้งที่ออกงาน<br> | แนวคิด ให้พระแสดงความตั้งใจทุกครั้งที่ออกงาน<br> | ||
+ | คุยถึงต้องการรถบัสไว้พัฒนาพระและชาวบ้าน<br> | ||
+ | ทำกิจกรรมเพื่อความดีของพระทุกรูป วัดพื้นที่กลางในการเปิดโอกาสให้พระทุกรูปทำดี<br> | ||
เปิดเผย ตรวจสอบได้ เดินทางตรง สอนอย่างเดียวจะช้า บรรยากาศชีกเลย<br> | เปิดเผย ตรวจสอบได้ เดินทางตรง สอนอย่างเดียวจะช้า บรรยากาศชีกเลย<br> | ||
พระในวัดเปลี่ยน จะทำให้ชุมชนเปลี่ยน มีผลถึงวัดอื่นเปลี่ยน เหมือนงานอุบาสิกาที่เปลี่ยนบทบาทมีมากขึ้น <br> | พระในวัดเปลี่ยน จะทำให้ชุมชนเปลี่ยน มีผลถึงวัดอื่นเปลี่ยน เหมือนงานอุบาสิกาที่เปลี่ยนบทบาทมีมากขึ้น <br> |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 14:40, 7 กุมภาพันธ์ 2568
เมื่อโลกเดือด เราต้องดับ กิจกรรมเดิม
แล้วก็เพิ่ม บุญใหม่ ให้โดดเด่น
ทำวัตรเช้า วัตรเย็น นั่งเย็น ๆ
ภาวนาเช่น ทุกวัน เช้าค่ำดี
โลกร้อนหนัก ต้องมุ่งพัก กายใจเพิ่ม
เน้นเติมเสริม สมาธิ สงบเสงี่ยมศรี
นั่งสบาย ๆ ผ่อนคลาย วันเดือนปี
ทุกวันวี่ เผชิญโลก ที่เปลี่ยนแปลง
2 มิถุนายน 2567 [1]
ถึงเวลาทำงานแบบอำนวยการ และเน้นเป้าหมายงานที่ใช่ อย่างบูรณาการ แบบหลวงพ่อธรรมชโย คือ หาศรัทธา หาทุน สนับสนุนการทำงานของพระในตำบล ผู้นำในตำบล
26 มิถุนายน 2567
มีความชัดเจนตามลำดับ เมื่อมีการสะสมองค์ประกอบที่มากขึ้น
วัดสะเดารัตนาราม มีความถนัด ในการเป็นพื้นที่กลางสำหรับการปฏิบัติการตามหลักอริยสัจสี่ ด้วยการประยุกต์หลักพุทธธรรม มีการหนุนเสริม เสริมแรงให้องคาพยพทางสังคม หรือ พุทธบริษัท ทำกิจกรรมใด ๆ ที่พากันเดินไปสู่สังคมสันติสุขได้ตามศักยภาพ หรือมีพัฒนาที่น่าพอใจ[2]
27 มิถุนายน 2567
๑.หน่วยอบรมประชาชนประจำตำบล
๒.หมู่บ้านรักษาศีล ๕
๓.วัด ประชา รัฐ สร้างสุข
ภารกิจที่ต้องการชุมชนร่วมเรียนรู้ ให้เป็นเครื่องมือสำหรับการเพิ่มพูนธรรมาภิบาล ๖ [3]
8 กรกฎาคม 2567
๑.หน่วยอบรมประชาชนประจำตำบล
๒.หมู่บ้านรักษาศีล ๕
๓.วัด ประชา รัฐ สร้างสุข
ภารกิจวัด สวดมนต์ ทำวัตรเช้า-เย็น นั่งสมาธิ ตลอดปี [4]
8 กรกฎาคม 2567
อำนวยการเพื่อตัดความกังวล เสริมแรงให้ความคิดผลิตความที่มีประสิทธิภาพ
27 กรกฎาคม 2567 [5]
ขอตั้งจิตอธิษฐานให้ข้าพเจ้าสามารถแนะนำบุคคลผู้มีความทุกข์หรือความเครียดได้ด้วยหลักสติปัฏฐาน 4 ทำลมหายใจให้เกิดสุขเทอญ
[6]
วางแผนอนาคต 9 ต.ค.2567
- ดำเนินการ พัฒนาบ้านกำไสจานเกื้อกูล (1)พัฒนาบัานชีวิภาภิบาล นายเรืองชนม์ เงินงอกงาม (2)ทำความสะอาดหมู่บ้านผ่านการบริจาคขยะ (3)มอบตราตั้งประชาสัมพันธ์วัดสะเดารัตนาราม ประจำบ้านกำไสจาน (4) เชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างบ้านกำไสจานกับ สภ.ทุ่งมน ผ่านการเกื้อกูลการทำงานและการเยี่ยมเยียนชุมชน
- การทำดีต้องสละชีวิตทำดี เหมือนคนชั่วสละชีวิตทำชั่ว
- เชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างหมู่บ้าน 11 หมู่บ้าน ตำบลทุ่งมน กับ สภ.ทุ่งมน (1) ตำรวจ สภ.ทุ่งมน กับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ส.อบต. ชักชวนคนบวชเพื่อละการดื่มสุรา และ ยาเสพติด (2)ตำรวจ เป็นวิทยากรให้ความรู้ ขัดเกลาชุมชน (3)ชุมชนร่วมบริจาคผ่านวัด สนับสนุนการทำงานของตำรวจ และผู้นำ
- จัดตั้งกองทุนชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านตำบลทุ่งมน
- ส่งเสริมคณะกรรมการตำบล หมู่บ้าน มั่นคง ยั่งยืน ปี2567
- พัฒนาศักยภาพชุมชน ไปให้ถึงมีรถตู้หมู่บ้านละคัน
กิจกรรมงานวัด
โลกเดือดพล่านร้อนทุกข์ทุกหย่อมบ้าน
งานวัดวานดูขัดยัดเยียดเขา
แย่งเวลาแย่งแรงเพิ่มหนักเอา
แย่งเงินเขาแย่งเวลาเบียดบังกิน
องค์กรวัดพระสงฆ์สื่อสารแย่
ไม่อาจแก้เล่าความสงสัยสิ้น
สื่อประโยชน์ชุมชนบวรยิน
ให้รักษ์ถิ่นพัฒนาวัดราษฎร์ชุมชนเรา
11 ตุลาคม 2567
พัฒนาวัดยังไม่เห็นประโยชน์ตน
ไม่ซึ้งข้นสุขใจภาคภูมินัก
ยังไม่อินไม่ซาบซ่านรู้สึกรัก
ยังแยกภักดิ์ยังไม่รักแยกเผ่าพันธุ์
วัดแยกส่วนหรือว่าบ้านแยกออก
หรือปอกลอกเอาเปรียบกลัวหวาดหวั่น
วัดมีก้อนมีสิ่งใดที่กีดกั้น
ขวางสุขสรรค์ขวางความปลื้มให้เปลืองตัว
11 ตุลาคม 2567
เมื่อแยกแยะ ผิดถูกให้รู้ถ้วน
จบกระบวนส่วนผิดอย่าเย้ยหยัน
จงปรับปรุงเปลี่ยนแปลงให้เข้ากัน
ผิดเป็นถูก ตั้งมั่น เพื่อความดี
บางครั้งมองถูกบ้างหรือผิดบ้าง
อยากเคว้งคว้างถดถอยหรือหน่ายหนี
การพากเพียรกระทำซึ่งความดี
ยากจะหนีความขัดแย้งจงแบ่งปัน
11 ต.ค.2567
งานเลี้ยงเพลในพรรษาที่ผ่านมา โยมที่ดูแลห้องน้ำวัดสะเดารัตนาราม ร่างกายต้องอ่อนเพลีย อันเกิดจากความเหนื่อยในงาน งานที่คนจำนวนมากยังไม่ได้ให้ความสำคัญ ยังไม่ได้ให้ความร่วมมือ ยังมีความรังเกียจงาน ผู้คนหลายคนมีอาการกระด้างทำความสกปรกให้เช็ดถูหนักขึ้น
ทั้งร่างกายที่เหนื่อยล้า กับการอดอาหาร เพราะไม่มีคนที่คอยจัดเก็บอาหารให้ เมื่อบวกกับเสียงที่ให้ข้อคิดว่า ทำงานเหนื่อยแล้วขาดสวัสดิการเช่นนี้ เป็นสิ่งที่ไม่งามเลย ทั้งคนที่อยู่ใกล้อาหารยังห่อเก็บงำอย่างไม่น่ารัก ยิ่งเห็น ยิ่งคิดยิ่งเหนื่อยยิ่งขึ้น
บริโภคอาหารด้วยกิเลสเป็นการเติมบาปทุกคำกลืน
12 ต.ค.2567 [7]
คิดวางแผนเขียนกลั่นสกัดแนวทาง
หยิบจับวางบวรทิศทางชัด
จึงวางตนเปลี่ยนแปลงภาพลักษณ์วัด
ชุมชนจัดเดินงานประสานคน
13 ต.ค.2567
สงัด สงบ เรียบง่าย สง่างาม
สงัดหู สงบจิต ง่ายจัดเก็บ
งามดุจเพชร เรืองผ่อง ครรลองสี
ล้างจิต ขจัดใจ ใฝ่ธรรมดี
ระเบืองชี้ ระบือเรื่องฟันเฟืองธรรม
13 ต.ค.2567
แรงลดลงเฉื่อยแล้วร่างกายนี้
ความคิดหนีถอยห่างปล่อยวางขึ้น
เฉยชาแผ่วตามโลกเดือดสมองมึน ๆ
ร่างกายฝืนสู้ทนอุณหภูมิ
ด้วยการเงินทุนทรัพย์หายากยิ่ง
เกรงใจจริงการบอกบุญสมัยนี้
สังคมเปลี่ยวอ้างว้างจิตไม่ดี
อุปสรรคมีมากล้นประชาชน
ต้องระวังจิตใจญาติโยมมากขึ้นหนา
ต้องรักษาน้ำใจลดสับสน
ต้องใช้จ่ายคุ้มค่าประเมินตน
จึงต้องร่นหลบฉากงานใด ๆ
การใช้เงินต้องระวังเคร่งครัดมาก
บอกบุญยากคนจนมากที่ไหน ๆ
พระสงฆ์เราต้องปรับตัวให้เหมาะไป
ลดงานใหญ่งานที่ต้องใช้เงิน
22 ตุลาคม 2567
จิตที่ถอยร่นหลบฉากพรางตัวไว้
สำนึกในทุนทรัพย์ญาติโยมถวาย
เจียดใช้สอยอย่างประหยัดแบบใจหาย
ระลึกได้ต้องใช้ละเอียดจริง
2 พ.ย.2567
ผู้คนในสังคมกำลังป่วยทั้งทางร่างกาย และจิตใจ
อาการป่วยเสียดแทงตนเอง จึงแสดงออกกระทบซึ่งกันและกัน ทั้งนี้ก็ไปมีส่วนเบียดเบียนปัจจัยหลัก คือ ปากท้อง ทำให้เกิดคลื่นความกลัว ความกลัวนี้จึงเบียดเบียนความสุข
ทำให้ผู้คนลดความปลื้มต่อกันและกัน
บุคคลพึงประพฤติธรรมให้มากขึ้น
การประพฤติธรรม คือ ลดการติดในกามคุณ ๕ ให้มาก เพราะจะช่วยลดคลื่นความกลัวดังที่กล่าวถึงนั้น
ภาพทางปฏิบัติ คือ การข่มจิต การทรมานกิเลส การขัดเกลา การลดภาระ ลดการกระทบ เพิ่มความเข้าใจ อดทน แล้วเพิ่มความปลื้มต่อกันและกัน
ไม่ลดแต่ให้ปลื้มก็ไม่ใช่ แต่ให้ปลื้มในอาการแห่งการลดให้ชัดเจน
25 พ.ย.2567
ยุทธศาสตร์พัฒนาพระภิกษุวัดสะเดารัตนาราม
๑.พัฒนาภาวะผู้นำ เลิกการกลัวต่อการใช้ไมค์ ด้วยให้พูดคุยวิทยุ
๒.ช่วยรักษาความสะอาดครัว
๓.รักในการทำวัตร นั่งสมาธิ
26 พ.ย.2567
ถ้างดการเรี่ยไรผ่านกิจกรรมสะเทือนชุมชน หรือ งดการใช้อำนาจเรี่ยไร หรือไม่ใช้บทบาททางสังคมในการเรี่ยไร
แต่จะบอกบุญผ่านกิจกรรมเล็ก ๆ หรือสายสัมพันธ์ใกล้ชิดเท่านั้น
การพัฒนาจิตใจผู้คนจะเป็นอย่างไร
29 พ.ย.2567
ในปัจจุบันความสุขของผู้คนถูกเบียดให้เล็กลง จากผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม ผลกระทบทางสุขภาพ มีโรคอุบัติใหม่ ภัยพิบัติทางธรรมชาติ เปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เป็นสำคัญ
ทำให้สภาพจิตใจของญาติโยมแม้แต่นักบวชก็ถูกเบียดบังไปด้วย ความสามารถในการปลดปล่อยสภาพจิตใจที่เป็นสาธารณะลดลงแบบเด่นชัดมาก
วัดสะเดารัตนารามจำเป็นต้องปรับบทบาท ให้ความสำคัญกับการพัฒนาบุคลากรภายในวัดให้ชัดเจนขึ้น เพิ่มศักยภาพพระในวัด เพื่อชะลอความเสื่อมทรุดของบุคลากรภายในวัด
30 พ.ย.2567
จุดเปลี่ยนการจัดการวัด 2568 เป็นต้นไป
วัดสะเดารัคนาราม หรือ เจ้าคณะตำบล ระยะ 1 เดือนที่ผ่านมาดูห่างไกลจากอบต. จากกำนันผู้ใหญ่บ้านไหม
อนาคตวัดสะเดารัตนารามหรือเจ้าคณะตำบลทุ่งมนจะมีการวางตัวระยะห่างออกจากระบบตำบลไหม
มีความห่างเหินจากคณะสงฆ์ตำบลขนาดไหน
1 มกราคม 2568
พระลูกวัดในวัดสะเดารัตนาราม จิตใจอ่อนแอ จิตยังไม่ถูกพัฒนา
จึงมีพฤติกรรม ที่ทำให้ผู้นำชุมชน พระสงฆ์วัดอื่น ๆ คิดหมิ่นเจ้าคณะตำบล (ดีแต่พูด พูดดีมีอุดมการณ์ แต่จัดการปัญหาในวัดไม่ได้)
พฤติกรรมพระในวัด เช่น
1.สูบบุหรี่ ดื่มกาแฟมาก
2.ตื่นสาย
3.ที่นอน และบริเวณกุฏิสกปรก
4.ทานอาหารเย็น
5.มีขยะหมักมม
เป็นต้น
แนวทางที่จะปฏิบัติต่อไป
1.ชวน นำพาทำความสะอาดห้องนอน กุฏิที่พักทุกวัน
2.ไม่มีการปัดหยากไย่ นำผ้าเช็ดหน้าเช็ดสิ่งของในห้อง
3.พับผ้าที่ใช้ให้เป็นระเบียบ ถ้าที่ไม่ใช้ให้เอาไปซักเก็บ
29 มกราคม 2568
หลังทำวัตรเย็น จัดสนทนาธรรม พระ 2 รูป พูดถึงประสบการณ์ของการไปร่วมประชุมที่อุบล กับเครือข่ายองค์กรอดเหล้า
และแลกเปลี่ยนเหตุการณ์ของวัด และเจ้าอาวาสในอดีต
ได้เสนอแนวคิดพาพระไปร่วมงานกับเครือข่ายองค์กรงดเหล้าบ่อย ๆ
มีแนวคิด พาพระไปรู้จักบุคคลที่มีกำลังใจ หรือ คนต้นแบบต่าง ๆ
แนวคิด ให้พระแสดงความตั้งใจทุกครั้งที่ออกงาน
คุยถึงต้องการรถบัสไว้พัฒนาพระและชาวบ้าน
ทำกิจกรรมเพื่อความดีของพระทุกรูป วัดพื้นที่กลางในการเปิดโอกาสให้พระทุกรูปทำดี
เปิดเผย ตรวจสอบได้ เดินทางตรง สอนอย่างเดียวจะช้า บรรยากาศชีกเลย
พระในวัดเปลี่ยน จะทำให้ชุมชนเปลี่ยน มีผลถึงวัดอื่นเปลี่ยน เหมือนงานอุบาสิกาที่เปลี่ยนบทบาทมีมากขึ้น
บรรยากาศสนทนาธรรมนี้ จะพาให้พระมีบทบาทมากขึ้นอย่างโดดเด่นได้
พระฐิติพงศ์ จิรฏฺฐิโก เสนอให้มีการสนทนาธรรม อาทิตย์ละครั้ง
อย่ายึดติด หัวโหน ห่วงแต่เกียรติ
อย่าไปเหยียด คนต่าง อ้างหมัวหมอง
อย่าไปยุ่ง คนอื่น เรื่องคู่ครอง
อย่าไปมอง ด้อยค่า มากกว่าตน…
7 กุมภาพันธ์ 2568