พัฒนาการความคิด ช่วงปี 2545
๘ – ๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๕ จัดกิจกรรมทอดผ้าป่าสามัคคี สมทบทุนก่อสร้าง และเปิดป้าย ศูนย์นิเวศน์ศึกษาป่าชาชนกำไสจาน ณ หน้าโรงเรียนทุ่งมนวิทยาคาร ได้รับการทำบุญบริจาค จำนวน ๗๘,๑๔๘ บาท ๔ มีนาคม ๒๕๔๕ โฉนดที่ดิน ( น.ส.๔ จ ) เลขที่ ๓๐๙๘๐ เล่ม ๓๑๐ หน้า ๘๐ อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ ตำแหน่งที่ดิน ระวาง ๕๖๓๘ # ๑๖๒๔ เลขที่ดิน ๕๓๘ หน้าสำรวจ ๑๘๗๓ ตำบลทุ่งมน มีเนื้อที่ ๑๖ ไร่ ๑ งาน ๖๑ ตารางวา ออกเมื่อวันที่ ๔ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๔๕ มีนาคม ๒๕๔๕ หลังได้โฉนดได้เขียนลงในสำเนาโฉนดที่ดิน ว่า “สถานที่ปฏิบัติธรรม สร้างชุมชนกัลยาณมิตร”
๒๑ มีนาคม ๒๕๔๕ บันทึกวัดสะเดารัตนาราม กิจกรรมเด่น ๑. บรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อน ๒. อบรมเยาวชนและศาสนิกชนแบบบูรณาการ ๓. งานปริวาสกรรมและปฏิบัติธรรม
วิธีดำเนินการ ๑. ประสานองค์กรบุคคลองค์ความรู้อย่างบูรณาการ เป้าหมายในการพัฒนาวัด ๑. เพื่อพัฒนาศาสนทายาท เยาวชน ศาสนิกชน ๒. เพื่อเป็นสถานที่เจริญสมาธิภาวนา ๓. เพื่อเป็นวัดพัฒนาด้านสุขภาพจิต บันทึก เมื่อ ๒๑ มีนาคม ๒๕๔๕
๓๐ มีนาคม ๒๕๔๕ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย โดยอนุมัติสภามหาวิทยาลัย ให้ปริญญาบัตรนี้แก่ พระมหาวีระ กิตฺติวณฺโณ (ได้ทุกทาง) (เกียรตินิยมอันดับสอง) เพื่อแสดงว่าสำเร็จการศึกษาเป็นพุทธศาสตร์บัณฑิต คณะครุศาสตร์ สาขาวิชา สังคมศึกษา มีศักดืและสิทธิแห่งปริญญานี้ทุกประการ ๒๒ เมษายน ๒๕๔๕ นางภิมาลี ภูศรี ส่งหนังสือขออนุญาตสร้างวัด เมื่อ วันที่ ๒๒ เมษายน พ.ศ. ๒๕๔๕
๑๙ พฤษภาคม ๒๕๔๕ พระมหาวีระ กิตฺติวณฺโณ (ได้ทุกทาง) เข้ารับประสาทปริญญา พุทธศาสตร์บัณฑิต รุ่นที่ ๔๗ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ณ หอประชุมพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม ๒๗ พฤษภาคม ๒๕๔๕ เปิดป้ายแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ “ลำน้ำชี” ( หลวงปู่หงส์-หลวงปู่ฤทธิ์) ณ ฝายหลวงปู่หงส์ “ลำน้ำชี” นายอำเภอปราสาท เป็นประธานในพิธี พ.ศ. ๒๕๔๕ เขียนแนวคิด การท่องเที่ยวทั่วไทยไปทุกเดือนที่ทุ่งมน เป็นแนวคิดการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ นอนชุมชนบ้านทุ่งมน เที่ยวป่าชุมชนกำไสจาน ล่องลำน้ำชี อบสมุนไพร ชมวัด ดูการละเล่นวัฒนธรรมพื้นบ้าน ๒๙ กรกฎาคม ๒๕๔๕ มีการจัดตั้งคณะกรรมการวัดสะเดารัตนาราม มีคณะกรรมการ ๒๙ รายชื่อ ระยะเวลา ๒๙ กรกฎาคม ๒๕๔๕ – ๒๙ กรกฎาคม ๒๕๔๗ ๗ กันยายน ๒๕๔๕ ถอดบทเรียนการทำงานในการพัฒนาของพระมหาวีระ กิตฺติวณฺโณ ในโครงการพัฒนาองค์ความรู้ เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งองค์ภาคประชาชน จ.สุรินทร์ เรื่อง “บทบาทพระสงฆ์ในการพัฒนา”
๒๔ ตุลาคม ๒๕๔๕ บันทึกเส้นทางหลักฯ เส้นทางหลักกลับจุดมุ่งหมาย คนเป็นศูนย์กลางในการพัฒนา คนมองปัญหาเพื่อขจัดปัญหา นี่เป็นการพัฒนาชีวิต หมู่คนร่วมกันขจัดปัญหาของปัจจุบันและอนาคต ชีวิตหลุดพ้นจากปัญหา ชีวิตมีสันติสุขภายนอกและภายใน
บันทึกเมื่อ ๒๔ ตุลาคม ๒๕๔๕ กรรมการวัดบริหารจัดการวัดและทรัพยากร เพื่อประโยชน์อย่างสูงสุดของชุมชนและร่วมกันสร้างชีวิตและจิตวิญญาณ ทุนที่ได้รับการบริจาคในการทอดผ้าป่าสามัคคี ทอดกฐิน เทศน์มหาชาติ และอื่นๆ หรือทุนอุดหนุน/ส่งเสริมอื่น ให้จัดสรร ๕๐% เพื่อประโยชน์ด้านสุขภาพจิตและกระบวนการศึกษาเรียนรู้ของชุมชน และ 50% เพื่อพัฒนาการสถานที่ วัสดุอุปกรณ์ การศึกษาและกลไกอื่นภายในวัด ทั้งหมดนี้ให้คำนึงเป้าหมายสูงสุดคือการมีส่วนร่วมสร้างความสุขในชุมชน ภายใน ๑๐ ปี ทูลพระเทพรัตนราชสุดาฯ เสด็จชุมชนตำบลทุ่งมน-สมุด เมื่อชุมชนบรรลุเป้าหมายหลายด้าน ๑. ป่าไม้ ลุ่มน้ำ และสิ่งแวดล้อม ชุมชนได้มีการดูแลจัดการเป็นอย่างดี มีการเรียนการสอนด้านสิ่งแวดล้อม ๒. วัฒนธรรม ชุมชนมีการสืบสานวัฒนธรรม นำวัฒนธรรมเป็นวิถีชีวิต ๓. องค์กรศาสนา มีบริหารการปกครอง การศึกษา การเผยแผ่อย่างมีคุณภาพ ๔. การศึกษา คนทุกคนในชุมชนรักการเรียนรู้ ใฝ่ศึกษาตลอดเวลา ๕. สุขภาพ ผู้คนในชุมชนมีสุขภาพจิตดีร่างกาย สุขภาพร่างกายแข็งแรง สังคมมีความสุข ๖. ภูมิปัญญา มีการรักษาภูมิปัญญาต่าง ๆ ไว้มีพิพิธภัณฑ์ในชุมชน ๗. กลุ่มเยาวชน ผู้สูงอายุ อสม. สตรี อนุรักษ์ธรรมชาติ ฯลฯ มีความเข้มแข็งทำงานเป็นทีม