เลี้ยงเพลในพรรษา ปีที่ 12
- เรื่อง เลี้ยงเพลในพรรษา ปีที่ ๑๒
- โดย นิสิตหลักสูตรพุทธศาสตรมหาบัณฑิต (พธ.ม.) สาขาวิชาพระพุทธศาสนา รุ่นที่ ๑๐
- งานชิ้นนี้เป็นส่วนหนึ่งของวิชา: สัมมนาพระพุทธศาสนา
- ชื่อ พระครูปริยัติกิตติวรรณ(วีระ กิตฺติวณฺโณ)/ได้ทุกทาง
- หลักสูตรพุทธศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาพระพุทธศาสนา นิสิต ชั้นปีที่ ๒ (รุ่นที่ ๑๐/๒๕๖๒)
- บัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตสุรินทร์
- Facebook : Weera Kittiwanno Email : [email protected]
- วันที่ ๒๕ กรกฎาคม ๒๕๖๓
- ณ วัดสุวรรณาราม ต.ประทัดบุ อ.ปราสาท จ.สุรินทร์
- ๑. วัตถุประสงค์ของ กิจกรรม/โครงการ
- ๑.๑ เพื่อจัดกิจกรรมงานบุญเลี้ยงเพลพระภิกษุสามเณรในพรรษา พื้นที่คณะสงฆ์ตำบลทุ่งมน-สมุด และวัดใกล้เคียงที่เกี่ยวข้อง
- ๑.๒ เพื่อเชื่อมสานสัมพันธ์กันระหว่างพระภิกษุ ญาติโยม ในเขตพื้นที่วัดแต่ละวัดได้ไปมาหาสู่กัน
- ๑.๓ เพื่อช่วยกันทำบุญอุปถัมภ์วัดแต่ละวัดได้มีปัจจัยใช้สอยบำรุงวัด
- ๑.๔ เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งในการคณะสงฆ์ตำบล
- ๒. ความเป็นมาของพื้นที่ และการปกครองคณะสงฆ์
- ตำบลสมุด เป็นตำบลตั้งขึ้นใหม่ โดยแยกออกจากตำบลทุ่งมนเมื่อปี ๒๕๓๕ มี ๘ หมู่บ้าน ส่วนตำบลทุ่งมนมี ๑๑ หมู่บ้าน ด้านเขตการปกครองของการคณะสงฆ์ เป็นเขตการปกครองตำบลเดียวกัน คือเขตการปกครองการคณะสงฆ์ตำบลทุ่งมนอยู่เช่นเดิม ยังไม่ได้แยกไปตามบ้านเมือง เพราะแต่ละตำบลยังไม่มีวัดครบ ๕ วัด ปัจจุบันเขตการปกครองการคณะสงฆ์(มหานิกาย)ตำบลทุ่งมนมีวัดที่ถูกต้องแล้ว จำนวน ๖ วัด วัดที่ ๖ คือ วัดสุวรรณหงษ์ บ้านสะพานหัน ตำบลทุ่งมน เป็นวัดที่เพิ่งได้รับการประกาศตั้งวัดใหม่ล่าสุด สำหรับพักสงฆ์โดยหลักๆ มีจำนวนอยู่ ๔ แห่งมีชุมชนอุปถัมภ์ชัดเจน แต่ยังมีที่พักสงฆ์อีกจำนวน ๓-๔ แห่งที่ยังเป็นเอกเทศหรือยังไม่มั่นคงกับชุมชนที่ชัดเจน
- วัดสุวรรณาราม อยู่ในพื้นที่ตำบลประทัดบุ แต่ที่ตั้งวัดอยู่ติดชิดเขตตำบลสมุด โดยญาติโยมคณะศรัทธาจากตำบลสมุดหลายหมู่บ้านร่วมอุปถัมภ์วัด วัดสุวรรณารามขึ้นกับการปกครองคณะสงฆ์ตำบลไพล เจ้าอาวาสชื่อพระครูสุพัฒนกิจ สายสัมพันธ์ใกล้ชิดกับพระครูประสาทพรหมคุณ(อดีตเจ้าอาวาสวัดเพชรบุรีและอดีตเจ้าคณะตำบลทุ่งมน) อดีตเป็นเจ้าคณะตำบลปราสาททนงและเจ้าคณะตำบลทุ่งมนตามลำดับ ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองเจ้าคณะอำเภอปราสาท ทั้งเป็นพระอุปัชฌาย์ของพระภิกษุในพื้นที่ทั้งหมด วัดสุวรรณารามจึงมีความสัมพันธ์แน่นกับการคณะสงฆ์ตำบลทุ่งมนและกิจกรรมเลี้ยงเพลในพรรษาทั้งสายพระชั้นปกครอง และทางพื้นที่ภูมินิเวศน์วัฒนธรรม ที่สำคัญ คือ การก่อเกิดโครงการกิจกรรมนี้และการจัดตั้งกองทุนสวัสดิการคณะสงฆ์ตำบลทุ่งมนเป็นสำคัญ
- วัดบวรมงคล ตั้งอยู่ในพื้นที่บ้านปรือ ตำบลปรือ ในอดีตบ้านปรือเคยเป็นหมู่บ้านหนึ่งของตำบลทุ่งมน วัดบวรมงคลสร้างขึ้นและเจริญขึ้นเป็นวัดโดยอดีตเจ้าอาวาสคนบ้านทุ่งมน (หลวงพ่อแม้น จนฺทปญฺโญ/หวังสำราญ ลูกศิษย์หลวงปู่ริม รตนมุณี อดีตเจ้าอาวาสวัดอุทุมพร) ก่อนที่จะเข้าอยู่ในเขตปกครองคณะสงฆ์ตำบลปรือตามพื้นที่ของบ้านเมือง เคยเข้าสังกัดในเขตการปกครองคณะสงฆ์ตำบลปราสาททนงมาก่อน ในคราวที่พระครูสุพัฒนกิจ เจ้าอาวาสวัดสุวรรณารามดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าคณะตำบลปราสาททนง วัดบวรมงคลแห่งนี้อยู่ในการปกครองของการคณะสงฆ์ปราสาททนง ปัจจุบันสังกัดเขตการปกครองคณะสงฆ์ตำบลปรือ วัดบวรมงคลจึงมีความสัมพันธ์แน่นกับการคณะสงฆ์ตำบลทุ่งมนและกิจกรรมเลี้ยงเพลในพรรษาทั้งสายพระชั้นปกครอง และทางพื้นที่ภูมินิเวศน์วัฒนธรรม และทั้งนี้เจ้าอาวาสวัดเป็นบุคคล ๑ ใน ๓ ที่ถือบัญชีกองทุนสวัสดิการคณะสงฆ์ตำบลทุ่งมน ภายหลังเมื่อการคณะสงฆ์ตำบลปรือมีการจัดกิจกรรมเลี้ยงเพลในพรรษาด้วยโดยยึดวันอาทิตย์เป็นหลัก การเลี้ยงเพลที่วัดบวรมงคลจึงเป็นวันอาทิตย์ของทุกปีและมีการรวม ๒ การคณะสงฆ์เข้าด้วยกัน วันอื่น ๆ ญาติโยมยังร่วมทำบุญทั้ง ๒ การคณะสงฆ์
- ที่พักสงฆ์ป่าหินกอง ตั้งอยู่บ้านกำไสจาน และมีบ้านตาอีอยู่ใกล้เคียง เป็น ๒ หมู่บ้านในตำบลทุ่งมน ที่ผ่านมาหัวหน้าที่พักสงฆ์ได้มีกิจกรรมเลี้ยงเพลร่วมกับกับวัดและชุมชนทางตำบลสวาย ตำบลนาบัวอำเภอเมืองสุรินทร์เป็นส่วนมาก ในอดีตภูมิประวัติศาสตร์ของบ้านกำไสจานและบ้านตาอีมีสายสัมพันธ์ด้านการปกครองขึ้นกับตำบลสวายอย่างยาวนาน ที่พักสงฆ์ป่าหินกองเข้าร่วมกิจกรรมเลี้ยงเพลในพรรษากับคณะสงฆ์ตำบลทุ่งมน ปี ๒๕๖๓ เป็นปีแรก ซึ่งสอดคล้องกับความต้องการของทางผู้ใหญ่กำนัน อบต.ที่มีความตั้งใจมาอย่างยาวนาน ที่พักสงฆ์ป่าหินกองแม้นเข้าร่วมกิจกรรมเลี้ยงเพลกับคณะสงฆ์ตำบลทุ่งมนแล้วก็ยังร่วมกับการคณะสงฆ์เดิมอยู่ วันเลี้ยงเพลจึงต้องแยกวันกันกับคณะสงฆ์ตำบลสวายตำบลนาบัว ญาติโยมยังร่วมทำบุญทั้ง ๒ พื้นที่
- ที่พักสงฆ์หงส์มุนี ตั้งอยู่บ้านหนองหรี่ มีบ้านลำพุกอยู่ใกล้ เป็นที่พักสงฆ์ที่ตั้งขึ้นใหม่ เข้าร่วมกิจกรรมเลี้ยงเพลในพรรษาได้มา ๒-๓ ปีแล้ว
- กองทุนสวัสดิการคณะสงฆ์ตำบลทุ่งมน จัดตั้งขึ้นสืบเนื่องจากกิจกรรมเลี้ยงเพลในพรรษา จัดตั้งขึ้นในช่วงต้น ๆ พร้อมกับการเลี้ยงเพลในพรรษา ในการนำของพระครูสุพัฒนกิจ มีการจัดทอดผ้าป่ากองทุนสวัสดิการคณะสงฆ์เป็นครั้งสุดท้ายหลังจากเลี้ยงเพลครบทุกวัดแล้ว แต่ยังจัดกิจกรรมภายในพรรษานั้น กองทุนนี้มีการมอบทุนการศึกษานักธรรม บาลีด้วย
- สถานีวิทยุชุมชนทุ่งมน-สมุด จัดตั้งขึ้นและออกอากาศเมื่อต้นปี ๒๕๔๗ สถานีตั้งอยู่หน้าโรงเรียนทุ่งมนวิทยาคาร ส่งกระจายเสียงในรัศมี ๒๐ กิโลเมตร เมื่อคณะสงฆ์ทุ่งมนมีกิจกรรมการเลี้ยงเพลขึ้นปี ๒๕๕๒ ทางสถานีวิทยุได้ขยายชื่อเป็น “สถานีวิทยุชุมชนทุ่งมน-สมุด-ปรือ-ประทัดบุ มีผู้นำชุมชน ๔ ตำบลร่วมจัดรายการวิทยุประชาสัมพันธ์กิจกรรมของชุมชน รวมทั้งกิจกรรมเลี้ยงเพลคณะสงฆ์ สถานีได้ดำเนินการกระจายเสียงถึงเดือนพฤษภาคม ๒๕๕๗ จึงต้องหยุดการดำเนินงานกระจายเสียงลง
- สถานีวิทยุกระจายเสียงบริการสาธารณะชื่อ “สถานีทุ่งมนสว่างกลางใจ” คลื่น 98.75 เมกะเฮิรตซ์สถานีตั้งอยู่ที่วัดสะเดารัตนาราม ได้ดำเนินการประชาสัมพันธ์กิจการคณะสงฆ์ทุกด้านรวมถึงงานเลี้ยงเพลในพรรษา ตั้งแต่ปี ๒๕๕๕ จนถึงปัจจุบัน
- ๓. สรุปแนวคิด และหลักการสำคัญในการจัดกิจกรรม/โครงการ
- เมื่อครั้งปีที่พระครูสุพัฒนกิจ ได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะตำบลทุ่งมนแล้ว จึงดำริและดำเนินโครงการกิจกรรมเลี้ยงเพลในพรรษาขึ้นปี ๒๕๕๒ เป็นปีแรก ซึ่งในพื้นที่แต่เดิมไม่มีกิจกรรมเลี้ยงเพลระหว่างวัดกับวัดเช่นนี้เลย ต่างวัดต่างอยู่ซึ่งมีความห่างเหินกันมาก ความสัมพันธ์กันระหว่างชุมชนมีเพียงกลุ่มชุมชนที่ไปทำบุญที่วัดเดียวกัน หรืออาจมีงานวัฒนธรรมเครือญาติบ้าง งานบุญระหว่างวัดอาจมีบ้างเฉพาะงานเทศน์มหาชาติประจำปี บรรยากาศในอดีตวัดกับวัดมีความสัมพันธ์กันไม่แนบแน่นนัก ต่างวัดต่างวัฒนธรรม วัดจึงมีความแตกต่างกันมาก ชุมชนกับชุมชนบางทีเยาวชนก็มีปัญหาทะเลาะกันระหว่างชุมชนเกิดขึ้นบ่อยครั้ง พระครูสุพัฒนกิจเล็งเห็นประโยชน์ของการนำพาพระภิกษุสามเณรให้รู้จักกันและกันได้พบกันและกันบ่อยๆ ให้ญาติโยมได้พบปะกันบ่อย ๆ จึงจัดให้มีกิจกรรมนี้ขึ้น
- การเลี้ยงเพลในพรรษา เป็นการนำของคณะสงฆ์ คือคณะสงฆ์จะเป็นผู้จัดประชุมปรึกษาหารือกันในภายในคณะสงฆ์แต่ได้สอบถามปรึกษาฝ่ายปกครองท้องที่มาประกอบการประชุมเสมอ การประชุมมีการจัดตารางเลี้ยงเพลขึ้นไปตามวัดเป็นลำดับ มีการสลับลำดับกันในปีถัดไป แล้วนำผลของการประชุมการวางแผนแจ้งตารางเลี้ยงเพลต่อผู้นำชุมชนได้ประชาสัมพันธ์กับญาติโยมในหมู่บ้าน เมื่อมีเหตุผลจำเป็นที่ทางผู้นำชุมชนขอปรึกษาเพื่อการปรับเปลี่ยน ก็ได้บรรยากาศแห่งการทำงานร่วมกันอย่างสวยงามงดงาม ร่วมกิจกรรมดังกล่าวเน้นวันหยุดราชการเสาร์อาทิตย์เพื่อให้เด็กและเยาวชนได้เข้าวัด
การเลี้ยงเพลในพรรษาเป็นการเปิดโอกาสให้ญาติโยมที่รักในการทำบุญให้ทาน คนจริตเดียวกัน นิสัยเดียวกัน คนหัวใจเดียวกัน ได้มีพื้นที่สำหรับการพบปะแลกเปลี่ยนกันบ่อยๆ โดยมีการเปลี่ยนสถานที่พบปะกันไปแต่ละวัด ผู้นำองค์กรต่างๆ ได้มีโอกาสในการนำข้อมูลข่าวสารมาประชาสัมพันธ์ในงานบุญ ได้ให้ความสำคัญซึ่งกันและกันในฐานะองค์กรของชุมชน ผู้คนที่รักในการเลี้ยงเพลในพรรษาต่างไต่ถามและแสดงความเห็นว่าควรดำเนินการในปีนี้แม้นจะมีอุปสรรคจากสถานการณ์โควิด-19 ก็ตาม ญาติโยมได้แลกเปลี่ยนอาหารหวานคราวแบ่งกันรับประทานอาหารหลังจากที่ได้ยกประเคนถวายพระภิกษุสงฆ์ได้ขบฉันเป็นอาหารเพลแล้ว ในการเลี้ยงเพลก็จะมีการยกโรงทานไปตั้งเพื่อแบ่งปันกันในหมู่ของญาติโยมทั่วไป ซึ่งมีโรงทานเป็นจำนวนมากขึ้นตามลำดับ เป็นการฝึกในการแบ่งปันฝึกในการขยายใจให้มีจิตใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กัน การทอดผ้าป่าสามัคคีครั้งสุดท้าย เพื่อจัดตั้งกองทุนสมทบกองทุนสวัสดิการคณะสงฆ์ คือการรวบรวมทุนเพื่อจะให้คณะสงฆ์พระภิกษุ ได้มีกิจกรรมพัฒนาการศึกษา พัฒนาวัด พัฒนาชุมชน สร้างสาธารณประโยชน์ร่วมกัน พร้อมกับผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น สร้างความสัมพันธ์ระหว่างบ้านวัดโรงเรียนซึ่งได้บรรยากาศของ “บวร”
- ๔. สรุปประโยชน์จากกิจกรรม
- ประโยชน์ที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน คือ เป็นกิจกรรมที่ก่อให้เกิดความรักความสามัคคีชัดเจน เรียกได้ว่าปรองดองสมานฉันท์เชิงพุทธ เงินบริจาคทำบุญที่เกิดขึ้น ณ วัดใดก็ถวายบำรุงวัดนั้น โดยไม่ต้องแบ่งถวายพระภิกษุที่ร่วมฉันเพล แต่มีการแบ่งปันเข้ากองทุนสวัสดิการคระสงฆ์ตำบลบ้างพองาม พระภิกษุในการคณะสงฆ์มีการทำกิจกรรมร่วมกันอย่างต่อเนื่องจนคล้ายเป็นวัดเดียวกัน เมื่อมีกิจกรรมของแต่ละวัดจึงได้รับความร่วมมือจากคณะสงฆ์และฝ่ายปกครองตลอดถึงญาติโยมเป็นอย่างดี กองทุนสวัสดิการคณะสงฆ์ช่วยเหลือเกื้อกูลเป็นกำลังใจกันยามเจ็บป่วยมรณภาพและเป็นกำลังในการแก้ปัญหาของแต่ละวัดได้
- ๕. ข้อเสนอแนะ เพื่อประโยชน์ในการพัฒนา
- - การจัดการขยะ ควรฝึกให้ผู้ร่วมกิจกรรมได้ตระหนักเรื่องขยะมากขึ้น
- - การเปิดโรงทาน แจกจ่ายอาหาร ควรมีการปรึกษาหารือกัน
- - สำหรับในพื้นที่ตำบลทุ่งมนและตำบลสมุด มีวัดและที่พักสงฆ์ฝ่ายธรรมยุตอยู่ ๒ แห่ง ซึ่งวัด ๑ แห่งในพื้นที่ตำบลสมุด ที่มีญาติโยมแสดงความคิดเห็นว่าอยากจะให้การคณะสงฆ์และชุมชน ๒ ตำบลได้เข้าไปช่วยอุปถัมภ์วัดแห่งนี้ ด้วยเพราะวัดแห่งนี้อยู่อย่างโดดเดี่ยวและก็ขาดแคลน