ชีวิตสมณะ

จาก wiki.surinsanghasociety
ไปยังการนำทาง ไปยังการค้นหา

[1]


วิถีชีวิตของสมณะสมัยชมพูทวีป เกิดขึ้นด้วยองค์ประกอบหนึ่งว่า ผู้ที่มีความเบื่อหน่ายในการครองเรือน ในการประกอบอาชีพ ทำมาหากินที่ต้องซับซ้อน ยุ่งยาก จึงค้นหาวิธีการที่จะได้ผ่อนแรง ผ่อนกาย แล้วเกิดความสุขทางใจ เกิดปัญญา เกิดความเข้าใจเรื่องชีวิตมากขึ้น

จึงมีวิถีการออกบวชเป็นสมณะ ถือบาตร หรือ กระเบื้อง เดินขออาหารจากชาวบ้านพอประทังชีวิตไปแต่ละวัน

สมณะผู้ประพฤติตนแตกต่างจากผู้ครองเรือนเมื่อค้นพบหรือสัมผัสความสุขความสบาย จึงนำคำสอนหรือแนวทางนั้นบอกกล่าวแก่ผู้ครองเรือน
จึงเกิดบทบาทหน้าที่ใหม่หรือแบ่งการทำงาน ฆราวาสประกอบสัมมาอาชีพเลี้ยงชีพตนแล้วแบ่งปันอาหารให้แก่สมณะผู้ออกบวช ผู้ออกบวชนำความรู้สอนให้กำลังใจแก่ผู้ครองเรือน
บทบาทดั่งเดิมของสมณะจึงเป็นบทบาทของการพัฒนาจิต การทำจิตให้สงบ การยินดีในที่สงัด การฝึกตนด้วยสมาธิ
ในสังคมไทยปัจจุบันซึ่งนับถือพระพุทธศาสนา มีวิวัฒนาการตามยุคสมัย มีวัดเป็นสถานที่รวมใจของผู้คนในชุมชน สถานที่อบรมกุลบุตรลูกหลานชาวบ้าน
เมื่อพ่อแม่ประสงค์ให้ลูกชายได้ฝึกฝนอบรมตนเองให้เป็นบัณฑิตหรือผู้มีความรู้ด้านศาสนาฝึกนิสัย
จึงส่งลูกชายบวชเรียนที่วัดใกล้บ้าน
การจะฝึกฝนพระเณรในสังคมปัจจุบันซึ่งอยู่ในสมัยสังคมโลกโซเชียล จำเป็นจะต้องเกิดภาพความร่วมมือใหม่ระหว่างบวร บ้านวัดโรงเรียนหรือราชการ ผู้ปกครอง จึงสามารถที่จะพัฒนาบุคลากรด้านศาสนาหรือบุคลากรของชุมชนได้
การปลูกฝังทัศนคติว่าการได้เกิดมาเป็นมนุษย์นั้นเป็นชีวิตที่ประเสริฐ เพราะการเกิดเป็นมนุษย์เป็นเรื่องที่ยากมาก จะต้องใช้ความพยายามในระยะเวลาที่ยาวนาน หลายกัปหลายกัลป์ทีเดียว การสร้างความตระหนักของการได้เกิดมาเป็นมนุษย์แก่พระภิกษุแก่ผู้ปกครองของพระแก่ผู้นำชุมชนเป็นเรื่องจำเป็น
การที่ทุกฝ่ายทุกคนเห็นความสำคัญของชีวิตมนุษย์แล้วตระหนักร่วมที่จะพัฒนาตามหลักพระพุทธศาสนาว่า มนุษย์เป็นผู้ที่ฝึกได้ สอนได้ เปลี่ยนแปลงได้ สามารถบรรลุมรรคผลนิพพานได้ และมนุษย์ทุกคนมีความเป็นพุทธะอยู่ในตน จึงได้เกิดมาเป็นมนุษย์เป็นผู้มีชีวิตชีวิตหนึ่งในโลกนี้
2 พฤษภาคม 2565