โครงการฟื้นฟูและอนุรักษ์ลำน้ำห้วยชี (ตอนกลาง) 2552

จาก wiki.surinsanghasociety
ไปยังการนำทาง ไปยังการค้นหา

คำนำ
“มีความรู้สึกว่าเป็นประสบการณ์ใหม่ ๆ อยู่เสมอ ๆ ทุกครั้ง ๆ ไป กับบทเรียนแห่งชีวิตที่เกิดขึ้นทุกโอกาสที่ได้ลงมือทำงาน ลงตัวทำกิจกรรม รวมถึงขณะกำลังคิด กำลังพูด กำลังทำ สิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นนั้น ๆ สดใหม่และท้าทายให้ตื่นเต้น กระฉับกระเฉงต่อกับการเคลื่อนงานชุมชนยิ่งนัก”
การได้โอกาสอันงามในการดำเนินโครงการฟื้นฟูและอนุรักษ์ลำน้ำห้วยชี (ตอนกลาง) ครั้งนี้ ได้ปลดปล่อยความรู้ความสามารถที่สั่งสมอบรมมาอย่างยาวนานมาใช้ในการบริหารโครงการอย่างเต็มใจ พร้อมกระตุ้นเร้าให้สนใจค้นคว้าข้อมูลข่าวสาร และประมวลงานพัฒนาอื่น ๆ เข้ามาบูรณาการเป็นเกลียวรอบ การเชื่อมโยงเรียงร้อยความรู้ คน กิจกรรม องค์กรต่าง ๆได้ นับว่าเป็นนวัตกรรมที่ยิ่งใหญ่ในการพัฒนาชุมชนฐานราก แต่ยิ่งใหญ่กว่านั้นด้วยจิตสำนึกทางวิญญาณบอกว่า การใช้กิจกรรมที่ใกล้ชิดชีวิตคนทุกคนมาพัฒนามาบอกมากล่าวเล่าสู่กันฟัง กระตุ้นนิดสะกิดหน่อย เพื่อให้ผู้คนมีชีวิตอยู่ใกล้ชิดกับธรรมชาติโดยไม่แตกแยกออกจากกัน
สิ่งทั้งหลายมีความสัมพันธ์ถึงกันอยู่เสมอ ไม่สามารถเกิดขึ้นโดดเดี่ยวเองได้ ชีวิตคนต้องมีเนื้อหนังกระดูก น้ำ ความอบอุ่น ลมอากาศ ประชุมหมุนเวียนตลอดเวลา ชีวิตต้องการอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ ต้องการน้ำดื่มหล่อเลี้ยงร่างกายให้ชุ่มชื้น ต้องการความอบอุ่นเป็นพลังงานไหลเวียน ต้องการอากาศที่บริสุทธิ์ไว้หายใจให้คล่องคอ ชีวิตคนจึงต้องช่วยกันรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่ดีเอาไว้ให้ยาวนานที่สุด
การได้นำผู้คน ชุมชน สังคมสนในทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมผ่านโครงการฟื้นฟูและอนุรักษ์ลำน้ำห้วยชี(ตอนกลาง) ครั้งนี้ จึงเป็นโอกาสที่ดีแก่ทุกสรรพสิ่งที่มีความสัมพันธ์ไปมาถึงกัน

พระมหาวีระ กิตฺติวณฺโณ หัวหน้าโครงการฟื้นฟูและอนุรักษ์ลำน้ำห้วยชี(ตอนกลาง) เจ้าอาวาสวัดสะเดารัตนาราม พระนิสิตปริญญาโท สาขาวิชาพุทธศาสนา

กิตติกรรมประกาศ
ขอขอบคุณ ขออนุโมทนาบุญ กับทุกท่านที่เกี่ยวข้องด้วยความจริงใจ กับทุกโอกาสเหตุการณ์ที่ผ่านมา ทุกเวลาที่ช่วยกันสร้างบรรยากาศแห่งการเรียนรู้ ขอชื่นชมทุกคนที่ชื่นชมต่อความดี แต่แม้ว่าจะใจกว้างประกาศความดีให้อย่างกว้างขวางแล้วก็ตาม สังคมนี้ก็ยังต้องอาศัยคนใกล้ชิดไว้ได้เกื้อกูลเป็นกัลยามิตรเสริมกำลังใจซึ่งกันและกันต่อไป จึงต้องกล่าวถึงโครงข่ายความร่วมมือกับสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ จังหวัดสุรินทร์ อันมีโยมพี่วริศราลี แก้วปลั่ง (พี่จ๋า) นายกสมาคมพัฒนาเครือข่ายองค์กรชุมชน ที่เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงในการจัดทำนำโครงการนี้มาถึงตำบลทุ่งมน ลดหลั่นกันลงมาอีกถึงทีมงานคณะทำงานจังหวัดที่กระตือรือร้นในการคิด พูด ถาม ทำทุกท่าน สำหรับในพื้นที่ต้องยอยกชาวบ้าน ชาววัดที่ร่วมใจร่วมแรงร่วมเรียนรู้ด้วยกันอย่างภาคภูมิใจ ขอนับองค์กรสำคัญให้ชื่นใจด้วย คือ สมาคมบ้านวัดโรงเรียนตำบลทุ่งมน-สมุดน่าอยู่ สภาเด็กและเยาวชนตำบลทุ่งมน สภาองค์กรชุมชนตำบลทุ่งมน เครือข่ายกองบุญคุณธรรมเพื่อจัดสวัสดิการชุมชนจังหวัดสุรินทร์ ล้วนมีวัตถุประสงค์องค์กรคล้อยเคียงกันมาแต่นานนม คุณนิรุตณ์ บัวพาอีกคนคงไม่มากไป เพราะเขาฝังตัวอยู่ที่ทุ่งมนมานมนานช่วยกันสร้างประวัติศาสตร์ชุมชนที่บอกรากเหง้าของชุมชนทุ่งมนได้อย่างชัดเจน
แม้จะอยู่ห่างไกล นับได้ไม่ทุกคน ก็ยังคิดถึงห่วงใยขอบคุณ น้ำมันหล่อลื่นที่ช่วยให้งานขับเคลื่อนได้จริง มิใช่จินตนาการลม ๆ แล้ง ๆ เช่นก่อนมา คือ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ ที่เจ้าของทุนทุกท่านยังขาดกำลังใจอยู่มาก ขอส่งกำลังใจถึงเจ้าของทุนทุกท่าน ด้วยความรักและห่วงใยอยากให้ท่านมีสุขภาพที่ดีเหลือเกิน ปรารถนาให้ท่านมีร่างกายที่แข็งแรง สุขภาพจิตที่ดี จะได้ก้าวสู่การเพาะบ่มจิตวิญญาณที่สูงต่อไปโดยไม่ติดขัด เลิกสูบ เลิกเมากันนะ เหล้าและบุหรี่อย่าอย่าเป็นตัวขัดขวาง บั่นทอนจิตวิญญาณผู้คนเลย ขอน้อมจิตคารวะบูชาพระคุณหลวงปู่ริม รตนมุนี อดีตเจ้าอาวาสวัดอุทุมพร ที่หลวงปู่ได้วางรากฐากบทบาทพระสงฆ์กับการพัฒนาชุมชน และการจัดการน้ำ จัดการป่า แม้หลวงปู่จะมรณภาพไปนานแล้ว เมื่อปี 2528 รูปที่ 2 คือ พระครูประสาทพรหมคุณ (หลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ) พุทธศาสตร์ดุษฎีบัณฑิตกิตติศักดิ์ (พธ.ด.) สาขาสังคมสงเคราะห์ ปี 2552 และผลงานรางวัลลูกโลกสีเขียว ครั้งที่ 3 ประจำปี 2544 รางวัลเกียรติยศ
ท้ายสุดขอบคุณเจ้าแห่งชีวิตที่ให้กำเนิดข้าพเจ้า คือ บิดรและมารดาของผู้ข้าเอย

ชีวิต คือการศึกษา
เพียรเพื่อพุทธศาสตร์ ปราชญ์เพื่อศาสนิก

บทคัดย่อ

ในขณะที่ชาวโลกกำลังประสบกับปัญหาภาวะโลกร้อน ภูมิประเทศต่าง ๆ ได้รับความเดือดร้อนจาการเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติ น้ำจืดปัจจัยสำคัญต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์มีจำนวนน้อยลงเรื่อย ๆ ถึงขนาดจะเกิดภาวะขาดแคลนได้ในอนาคต ถ้าไม่มีกระบวนการฟื้นฟู อนุรักษ์แหล่งน้ำเกิดขึ้นในแต่ละชุมชน สังคมบ้านเรานี้ก็จะต้องประสบกับปัญหาความเสื่อมโทรมของระบบนิเวศน์น้ำอย่างรวดเร็วและรุนแรงในอนาคตอันไม่ไกลนัก โดยเริ่มที่ปัญหาน้ำขาดคุณภาพ สำหรับการบริโภค น้ำอุปโภค การเกษตร และมีปัญหาขาดปริมาณน้ำ เริ่มต้นที่น้ำเพื่อการเกษตร น้ำเพื่ออุปโภค และมีปัญหาน้ำเพื่อบริโภคในที่สุด
โครงการฟื้นฟูและอนุรักษ์ลำน้ำห้วยชี (ตอนกลาง) โดยการหนุนเสริมเชื่อมเครือข่ายของโครงข่ายความร่วมมือกับสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ จังหวัดสุรินทร์ สมาคมพัฒนาเครือข่ายองค์กรชุมชน และภาคีประชาคมสุรินทร์สร้างสุข ได้รับทุนดำเนินกิจกรรมจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เป็นระยะเวลา 1 ปี ระหว่างวันที่ 1 สิงหาคม 2551 ถึง 31 สิงหาคม 2552 ด้วยงบประมาณจาก สสส. จำนวน 199,040.00 บาท และสนับสนุนเพิ่มเติมอีก 12,000 บาท เป็นชุดโครงการพร้อมกับพื้นที่ดำเนินการอีก 4 พื้นที่ คือ โครงการฟื้นฟูและอนุรักษ์ลำน้ำห้วยชี (ตอนต้น) โครงการฟื้นฟูและอนุรักษ์ลำน้ำห้วยชี (ตอนปลาย) โครงการฟื้นฟูและอนุรักษ์ลำน้ำห้วยทับทัน – ห้วยเสน และ โครงการฟื้นฟูและอนุรักษ์ลำน้ำห้วยด่าน (กาบเชิง)
การจัดกิจกรรมโครงการได้มีการบูรณาการความรู้ คน กิจกรรม ทุน องค์กรต่าง ๆ ในพื้นที่ตำบล รอบด้าน เช่น เมื่อการประกวดสถานีอนามัยดีเด่น สถานีอนามัยตำบลทุ่งมนได้รับการประเมินผลดีเด่นระดับโซน จังหวัด เขต และระดับที่ 2 ของภาคอีสาน เป็นต้น ในระดับจังหวัดเกิดการเชื่อมโยงแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระดับเครือข่ายหลากหลายประเด็น ในภาพของประชาคมสุรินทร์สร้างสุข
โครงการฟื้นฟูและอนุรักษ์ลำน้ำห้วยชี (ตอนกลาง) ช่วยอนุรักษ์ลำนำ ป่าริมลำชี อนุรักษ์แหล่งอาหารอย่างยั่งยืน( วังปลา) สร้างจิตสำนึกสิ่งแวดล้อมในชุมชน สร้างทุนขึ้นภายในชุมชน สร้างสื่อหรือศูนย์เรียนรู้ และเสริมความเข้มแข็งแก่องค์กรชุมชน เช่น กลุ่มอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ต.ทุ่งมน สมาคมบ้านวัดโรงเรียนตำบลทุ่งมน-สมุดน่าอยู่ สภาเด็กและเยาวชนตำบลทุ่งมน กองทุนคุณธรรมสวัสดิการชุมชนพึ่งตนเองตำบลทุ่งมน(องค์กรสวัสดิการชุมชน) สภาองค์กรชุมชนตำบลทุ่งมน เป็นต้น
โครงการฟื้นฟูและอนุรักษ์ลำน้ำห้วยชี (ตอนกลาง) และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ได้เข้าหนุนเสริมชุมชนตำบลทุ่งมนให้เกิดพลวัต เกิดพลังทางสังคม พลังทางวัฒนธรรม พลังทางปัญญา พลังทางการจัดการชุมชนให้เพิ่มขึ้น ชุมชนทุ่งมนจะทวีคูณการพัฒนาคุณภาพชีวิตแก่ผู้คนในชุมชนต่อไป ต่อเนื่อง ด้วยนวัตกรรมที่บูรณาการของคนทุ่งมน