พัฒนาการความคิด ช่วงปี 2544
- พ.ศ. ๒๕๔๔ พระมหาวีระ กิตฺติวณฺโณ ตัวแทนพื้นที่ป่าชุมชนกำไสจาน เป็นคณะทำงานพัฒนาเครือข่ายองค์กรชุมชนจังหวัดสุรินทร์ ฝ่ายทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม
เนื้อหา
มกราคม ๒๕๕๔
- 5 ม.ค.2544 ซื้อโทรศัพท์ เครื่องแรก โมโตโรร่า 5,900 บาท เบอร์ 0815793250
กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔
- กุมภาพันธ์ ๒๕๔๔ พระมหาวีระ กิตฺติวณฺโณ เขียนบทความ “พุทธศาสตร์บัณฑิตกับการสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้คู่คุณธรรม”
พุทธศาสตร์บัณฑิตกับการสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้คู่คุณธรรม
เมื่อประเทศไทยเรากำลังมีการปฏิรูป(การปรุงแต่งที่ตั้งใจบังคับให้อยู่ในอาณัติ หรือให้อยู่ในการบังคับ อาจเข้าข่ายยึดถือกฎแบบอำนาจนิยม) ด้านโครงสร้างสังคมในระดับประเทศหลายด้าน และในการปฏิรูปนั้น มีการคาดหวังกันว่า โครงสร้างใหม่จะได้พัฒนาระบบสังคม เศรษฐกิจ และการเมืองของไทยให้ดีขึ้น สามารถแก้ปัญหาของสังคมไทยได้อย่างมีประสิทธิภาพ กระทั่งเป็นสังคมที่มีสิ่งแวดล้อมที่ดี เป็นสังคมในฝันขึ้น (อธิษฐานธรรมกุศลเจตนา) ได้เอื้ออำนวยประโยชน์สงบสุขในการอยู่ร่วมกันของประชาชนชาวไทยทั้งปวง การปฏิรูปที่มีการดำเนินการในขณะนี้ คือ การปฏิรูปการเมือง การปฏิรูประบบสุขภาพ การปฏิรูปการศึกษา การปฏิรูประบบราชการ การปฏิรูปสื่อ และการปฏิรูปอื่น ๆ ที่ฮิตติดปากผู้นำการเปลี่ยนแปลง ผู้ปฏิบัติตามการเปลี่ยนแปลง หรือผู้ตื่นตัวตามการเปลี่ยนแปลง ในขณะเมื่อมีการดำเนินการปฏิรูปนี้ เหตุการณ์ที่นำการเปลี่ยนแปลงหรือการนำไปใช้ในภาคปฏิบัติได้เกิดขึ้นในสังคมไทย ชุมชนไทยหลายอย่าง หลายกรณี จนเกิดภาวะสังคมขึ้นตามเหตุปัจจัย (หลักปฏิจจสมุปบาท) ตามองค์ประกอบที่ประชุมกันอยู่ (สังขาร) เป็นปัจจุบันตามห้วงเวลาในระยะนาที ชั่วโมง วัน เดือน ปี เหตุการณ์ที่นำการเปลี่ยนแปลงหรือการนำปฏิบัติของบุคคลเพื่อการเปลี่ยนแปลงได้เกิดขึ้นในคุ้ม หมู่บ้าน ตำบล อำเภอ จังหวัด คือ มีการประชุม การสำรวจ การแสดงความคิดเห็น การสัมมนา การทำประชาคม ประชาสังคม หรือการตั้งเป็นคณะกรรมการประเภทต่าง ๆ เพื่อการดำเนินการเปลี่ยนแปลงใด ๆ มากมายนับไม่ถ้วนในชุมชนท้องถิ่น มีการมอบกรอบทำงานให้เป็นไปตามเครื่องมือของประเพณี วัฒนธรรม วิธีการ ข้อตกลง สัญญา ระเบียบ ข้อบังคับ กฎหมาย อย่างใดอย่างหนึ่ง โดยส่วนมากจะคำนึงแบบแยกส่วนของเครื่องมือคงยังห่างจากหลักปฏิจจสมุปบาท ซึ่งอาจจะขาดหรือคลาดเคลื่อนจากจิตวิญญาณ หรือ ขาดจากแก่นแท้ของเครื่องมือนั้น ๆ ดั่งที่คนแรกคิดไว้ แล้วในหมู่คนที่รวมตัวกันดำเนินกิจกรรมนั้น ๆ เองก็เป็นธรรมชาติเป็นธรรมดาที่จิตคนจะยังเปรอะเปื้อนด้วยโลภะ โทสะ และโมหะ ในเรื่องของการเปลี่ยนแปลง (กฎไตรลักษณ์ ตามดูแลเสมอ) การที่คนมีการเปลี่ยนแปลง ก่อนอื่นจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงที่จิตของคนก่อน และโดยธรรมชาติจิตจะมีการแสดงออกภายนอก เช่นด้านกาย หรือด้านวาจาในทุกกาล สถานที่ สถานการณ์ ฉะนั้นการเปลี่ยนแปลงของคน ของสังคม ของสถานการณ์บางส่วนก็จะเป็นไปตามกุศลเจตนาที่วางเป็นเครื่องมือไว้ คือ เป็นไปตามความคาดการณ์ คาดหวัง แต่การเปลี่ยนแปลงหลายส่วนที่เกิดขึ้นตามกระแสที่พุ่งขึ้นจากความไม่เข้าใจกัน จนมีการออกนอกการคาดหวัง อันเนื่องจากผู้คนไม่สามารถรู้เท่าทันตามความเป็นจริงของจิตใจตนและผู้อื่นหรือธรรมชาติหลักกรรมได้ เพราะคนในสังคมเราส่วนมากขาดการพัฒนาคุณธรรม ศีลธรรมภายในตนอันก่อให้เกิดสติปัญญา เมื่อบุคคลที่มีการเปลี่ยนแปลงบนพื้นฐานการขาดพลังของ ศีล สมาธิ ปัญญา การเปลี่ยนแปลงหลายอย่างก็จะเกิดขึ้นแบบไม่ต้องการจะให้เกิดขึ้น คือมีเกิดขึ้นผิดจากวัตถุประสงค์เดิม ด้วยมีการลองผิดลองถูกในวิธีปฏิบัติ ก่อนจะถึงเป้าประสงค์อาจจะเกิดความผิดพลาด (ทุกข์) แล้วเบี่ยงแบนจากเส้นทางเดิมได้ ไม่อยู่ในทำนองคลองธรรม (ผิดองค์มรรค) เกิดปัญหา(ทุกข์) ทับซ้อนยากแก่การแก้ไข ผู้คนในสังคมท้องถิ่นส่วนมากจะเกิดความขัดแย้งทางทัศนะ เพราะบุคคลมี ศรัทธา ศีล จาคะ ปัญญา ไม่เสมอกัน เมื่อเหตุการณ์ของความขัดแย้งเกิดขึ้น เป็นความขัดแย้งอันเกิดขึ้นจริงจากองค์ประกอบภายนอกหรือความขัดแย้งอันเกิดจากภายในคนที่มีโมหจริตปรุงแต่งคิดเอาเองนั้น มีผลต่ออายตนะภายในของบุคคลที่ประกอบในโมหจริตนั้น ต่อจากนั้นเกิดผลการทำงานทางกระบวนการณ์ขันธ์ ๕ ในแต่ละบุคคล บุคคลที่มีความขัดแย้งในใจ (นิวรณ์) แล้ว เป็นการยากที่บุคคลอื่นจะสามารถเข้าโน้มน้าว ชักนำ แนะนำได้ตามปกติ หรือเข้าช่วยเปลี่ยน ปรับปรุง แต่งเติมจิตใจไปในทางที่พึงประสงค์ได้ ที่จริงคนก็มักทำอะไรไม่คำนึงถึงจิตใจคนอื่นอยู่แล้ว มักจะยึดเครื่องมือภายนอกเป็นบรรทัดฐาน เมื่อไม่ (ข้อความขาดหาย)
- ๑๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๔ สัมมนาการใช้พลังงานในครัวเรือน ณ วัดสะเดารัตนาราม
มีนาคม ๒๕๕๔
- ๑๙ – ๒๐ มีนาคม ๒๕๔๔ สมาชิกพื้นที่กำไสจาน ๒ คน เข้าร่วมสัมมนาวิชาการเรื่อง สถานการณ์ลุ่มน้ำจังหวัดสุรินทร์กับนโยบายการจัดการน้ำของชาติ ณ วัดโพธิพฤกษาราม อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์
- ๒๙ มีนาคม – ๓ เมษายน ๒๕๔๔ พิธีบำเพ็ญกุศล พระราชทานเพลิงศพ เป็นกรณีพิเศษ พระอธิการเพลียด สิริปญฺโญ อดีตเจ้าอาวาสวัดสะเดารัตนาราม ณ เมรุชั่วคราววัดสะเดารัตนาราม พิธีพระราชทานเพลิงศพ วันที่ ๒ เมษายน ๒๕๔๔ เวลา ๑๖.๐๐ น. ในงานมีการจัดบวชสามเณร โดยพี่เลี้ยงจากวัดพระธรรมกายมาอบรมให้ มีผู้เข้าบวชสามเณร ๔๐ กว่ารูป
มิถุนายน ๒๕๔๔
- มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๔๔ - ระยะ ๘ เดือน เครือข่ายป่าชุมชนจังหวัดสุรินทร์ ซึ่งมีพื้นที่ป่าชุมชนกำไสจานด้วย ได้รับการสนับสนุนจากกองทุนเพื่อการลงทุนทางสังคม (SIF ) ในโครงการพัฒนาเครือข่ายป่าชุมชนจังหวัดสุรินทร์ จำนวน ๓,๑๔๓,๑๒๓ บาท เฉพาะพื้นที่ป่าชุมชนกำไสจาน ได้รับการสนับสนุนการสร้างอาคาร ศูนย์นิเวศน์ศึกษาป่าชุมชนกำไสจาน ๑ หลัง ๑๗๐, ๐๐๐ บาท ในขณะเดียวกันพื้นที่ตำบลทุ่งมนก็เป็นภาคีเครือข่ายลุ่มน้ำจังหวัดสุรินทร์ มีการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ เช่นเดียวกัน ในโครงการเครือข่ายลุ่มน้ำ จากแหล่งทุนเดียวกันนี้
- ๗ มิถุนายน ๒๕๔๔ ความเห็นของพระมหาวีระ กิตฺติวณฺโณ เขียน ณ วัดพระธรรมกาย ได้ถูกตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์เกี่ยวกับพระสังฆาธิการ “พระภิกษุสามเณรควรปฏิบัติตามหลักไตรสิกขา มีการทำความเข้าใจและปฏิบัติไปพร้อมกัน นั่นคือทำตนเป็นผู้ใฝ่รู้ โดยยึดหลักคือ ศีล สมาธิ ปัญญา เป็นแกนหลัก ทำตนให้ชัดเจนในสัมมาทิฏฐิ แล้วขยายสัมมาทิฏฐิของตนร่วมกับสหธรรมิกเป็นกลุ่ม เป็นทีม แสดงพลังสัมมาทิฏฐิที่ถูก ที่ชี้ถูกชี้ผิดให้ประชาชนเข้าใจตามได้ ทั้งต่อบุคคลและองค์กรที่มีผลทางนิติบัญญัติอันจะเป็นบรรทัดฐานในการยึดปฏิบัติอย่างถูกต้องต่อไปอย่างยั่งยืน”
สิงหาคม ๒๕๔๔
- ๑๑ -๑๓ สิงหาคม ๒๕๔๔ จัดส่งเยาวชนเข้าอบรมเยาวชนอนุรักษ์ป่าจังหวัดสุรินทร์ จำนวน ๑๐ คน ที่ป่าชุมชนหนองเยาะ อ.สังขะ จ.สุรินทร์
เมื่อทุ่งมนเน้นสุขภาพคน ทุ่งมนจะยั่งยืน
ชาวทุ่งมนคนรักป่า รู้คุณค่าสิ่งแวดล้อม
สามัคคีธรรมหล่อหลอม ข้าวซ้อมมือเลื่องลือไกล
ปลูกข้าวปลอดสารพิษ ชาวนาผลิตข้าวสารได้
ท่องเที่ยวอบสมุนไพร ต้อนรับไทยให้เยี่ยมเยียน
ยิ้มแย้มป่าไม้สวย ลำน้ำห้วยล่องเรือเลื่อน
วัฒนธรรมอบอุ่นเรือน ทุกคนเหมือนญาติธรรม
เยาวชนสนใจใส่ ป่าแมกไม้รู้ลึกล้ำ
อธิบายคล่องจดจำ พาเที่ยวน้ำลำเนาไพร
ชุมชนปลอดสารพิษ ยาเสพติดไม่เข้าใกล้
คนงามตลอดกายใจ สุขภาพใหม่ให้ยั่งยืน.
พระมหาวีระ กิตฺติวณฺโณ
เขียนไว้เมื่อ ๑๔ ส.ค.๔๔
- ๑๙ สิงหาคม ๒๕๔๔ พระมหาวีระ กิตฺติวณฺโณ เป็นแกนนำจัดตั้งกลุ่มศาสนาทายาทคณะสงฆ์อำเภอปราสาท (ศ.ส.ป.)
คืนหนึ่งฝันว่า
ตลอดแนวตำบลทุ่งมนมีลำชีไหลผ่าน
แต่ที่นาในป่ากำไสจานขาดน้ำ
เห็นสองเขื่อนขวางกั้นชีกลางลำ
แล้วก็มีสถานีดูดน้ำพลังแสงไฟฟ้า
ชาวนาตำบลทุ่งมนจะไม่ด่วนขายข้าวเปลือก
ต่างเลือกคอยขายเป็นข้าวสารที่ตนเองผลิตแยกชนิด
ร่วมใจพร้อมใจกันเตือนกันห่างไกลอบายมุขยาเสพติด
ต่างก็มุ่งมั่นในการพัฒนาคุณภาพชีวิต สังคม
การทำเกษตรจะเป็นเกษตรปลอดสาร
มีการผลิตข้าวสารหรืออาหารทุกชนิดมาตรฐานนิยม
ป่ากำไสจานดินชุ่มชื้นพืชพันธุ์ผลิบานระดม
ปัญหาขาดน้ำหรือจิตใจจนที่ขื่นขมถูกขจัดหมดไป.
พระมหาวีระ กิตฺติวณฺโณ
เขียนไว้เมื่อ ๒๑ ส.ค.๔๔
- ๒๓ สิงหาคม ๒๕๔๔ จัดกิจกรรมแกนนำเยาวชนตำบลทุ่งมน ณ สถานีอนามัยตำบลทุ่งมน
- ๒๔ สิงหาคม ๒๕๔๔ จัดประชุมผู้นำชุมชนทั้งหมด และภาคีการพัฒนาตำบลทุ่งมน – สมุด เรื่อง ป่าชุมชนกำไสจาน ณ โรงเรียนทุ่งมนวิทยาคาร
กันยายน ๒๕๔๔
- กันยายน ๒๕๔๔ ดำเนินการสร้างศูนย์นิเวศน์ศึกษาป่าชุมชนกำไสจาน ณ หน้าโรงเรียนทุ่งมนวิทยาคาร ตามแผนการสนับสนุนกิจกรรมการจัดการทรัพยากรป่าไม้โดยองค์กรชาวบ้าน รับงบประมาณจากกองทุนเพื่อการลงทุนทางสังคม ( SIF ) จำนวน ๑๗๐,๐๐๐ บาท และ รวมจ่ายทั้งสิ้น ๒๒๙,๒๒๔ บาท
- ๑๐ กันยายน ๒๕๔๔ จัดกิจกรรมป่าต้นไม้เสริมป่า ณ ป่าเขาคีรีวงคต
- ๒๐ กันยายน ๒๕๔๔ จัดกิจกรรมวันเยาวชนสามัคคี ตำบลทุ่งมน ณ วัดสะเดารัตนาราม
ตุลาคม ๒๕๔๔
- ตุลาคม ๒๕๔๔ ประชุมเยาวชน จำนวน ๑๐ คน เพื่อเขียนโครงการเยาวชนเดินป่าเพื่อศึกษาต้นไม้
- ๑๑ – ๑๔ ตุลาคม ๒๕๔๔ คณะกรรมการป่าชุมชนกำไสจาน ร่วมจัดงานมหกรรมทางเลือกภาคประชาชน ณ ศาลากลางจังหวัดสุรินทร์ ร่วมสัมมนา เรื่อง ดิน น้ำ ป่า
- ๒๙ ตุลาคม ๒๕๔๔ พระมหาวีระ กิตฺติวณฺโณ เข้าร่วมสัมมนา “แนวทางการปฏิรูประบบราชการในมุมมองภาคประชาชน” ณ โรงแรมเพชรเกษม
- ๓๐ ตุลาคม ๒๕๔๔ จัดกิจกรรม ลานวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น ณ วัดอุทุมพร
ธันวาคม ๒๕๔๔
- ๒๐ ธันวาคม ๒๕๔๔ สมาชิกพื้นที่ป่าชุมชนกำไสจาน ร่วมเวทีเสวนาและเดินรณรงค์ มาตรา ๔๐ ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ณ เทศบาลเมืองสุรินทร์
- ก่อกลุ่มศาสนทายาทคณะสงฆ์อำเภอปราสาท ลุยสังคมให้อุดมศีลธรรม คำขวัญคำกลอน เพื่อห่างไกล
อบายมุข ครอบครัวอบอุ่น
- ผลักดัน ขับเคลื่อน แนวคิดศีลธรรมสู่มวลชน เอกชน ราชการ รัฐบาล
- เข้าร่วมประชุมประจำเดือนกับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อำเภอปราสาท พ.ศ. ๒๕๔๔
-2544 พบว่าหลวงปู่ริม รตนมุนี กำหนดให้วัดมีความยั่งยืน รุ่งเรือง