พัฒนาการความคิด ช่วงปี 2553
- ๑๑ มกราคม ๒๕๕๓ วันจันทร์ เข้าร่วมประชุม “สวัสดิการชุมชน รากฐานการพัฒนาที่ยั่งยืน” ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล
เนื้อหา
ติดตั้งแอพไลน์
- 12 พ.ค. 2553 ยามบ่าย 14.35 น. ติดตั้งแอพไลน์ โพสต์ครั้งแรก ว่า “เรียนรู้ใหม่” โดยใช้อีเมล์ [email protected] ยืนยันตัวตน
เริ่มใช้เฟซบุ๊ค
- 14 มิ.ย.2553 เริ่มใช้เฟซบุ๊ค โดยใช้อีเมล์ [email protected] ยืนยันตัวตน ได้อัพเดตรูปโปรไฟล์เป็นรูปพาอุบาสิกานั่งสมาธิใต้ต้นไทรกลางลานวัด และโพสต์ข้อความแรก ว่า “ไม่มีอะไร กำลังเรียนรู้ ตอนที่ยังไม่รู้ก็ซนค้นขวาย พอรู้แล้วก็ปล่อยไป บางทีก็เป็นการทอดธุระ”
ดาวน์รถกระบะเขียว
- 22 มิ.ย.2553 ดาวน์รถกระบะเขียว 30,000 บาท
- 6 ก.ค. 2553 จ่ายค่ารถกระบะ อีซูซุ สีเขียว 100,000 บาท
- 30 ก.ค. 2553 โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊ค ว่า “31 ก.ค.53 เช้าจัดตักบาตร ณ หนองกังแอน อ.ปราสาท 130 กว่ารูป” “กาจญนา เพชรวิเศษ ป.ใหญ่ อ.ปราสาท คือผู้มีบุญ เป็นประธานตักบาตร ณ หนองกังแอน ปราสาท 31 ก.ค. 2553” และ “วัดสะเดารัตนาราม เป็นสถานที่อบรมพระโครงการบวชพระแสนรูปเข้าพรรษา 2553”
- 31 ก.ค. 2553 โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊ค ว่า ”วันที่ 8 กรกฎาคม 2553 วันเลือกตั้งผู้ใหญ่บ้าน บ้านตาเจียด ม. 3 ต.ทุ่งมน มีผู้สมัคร 2 คน อดีตผู้ใหญ่บ้านนายประกอบ พูนยิ่งยงค์ เบอร์ 1 และ นายฉลวย ครองชื่น เบอร์ 2 ทั้ง 2 คนนี้ มีความดีมากพอ ๆ กัน” และ “เมื่อเช้าจัดพิธีตักบาตรที่หนองกังแอน อ.ปราสาท 130 รูป จาก 3 ศูนย์อบรม”
- 3 ส.ค.2553 โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊ค ว่า “จะดำเนินกิจกรรมในตำบลทุ่งมน ให้ตำบลยุทธศาสตร์ สู่การปฎิรูปประเทศไทย” และ อีก 2 ข้อความในวันเดียวกัน ว่า “โครงการเผยแพร่หลักคิดประชาธิปไตยครอบครัวและชุมชน กำลังจะขับเคลื่อน ณ ตำบลทุ่งมน คณะทำงาน มี ประธานสภาองค์กรชุมชนตำบล ปธ.สวัสดิการชุมชน กำนัน ผอ. เจ้าอาวาส วิทยุชุมชน”
“ตำบลสุขภาวะก็เอา”
- 4 ส.ค.2553 โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊ค ว่า “วัดสะเดารัตนาราม พรรษา 2553 นี้ พระ 35 รูป สามเณร 3 รูป รวม 38 รูป”
- 20 ส.ค.2553 โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊ค ว่า
“ภิมาลี ภูศรี คนดีศรีพุทธศาสน์ มั่นองอาจฉลาดธรรมจิตงามเหลือ
หมั่นขวนขวายศีลธรรมมอบจุนเจือ ศิษย์ญาติเชื่ออบอุ่นซึ้งตรึงใจ
วัดและศาสนาได้พึ่งขุนพลแก้ว กัลยาณมิตรแถวหน้าจิตแจ่มใส
ทหารกล้ากองทัพธรรมเดินทางไกล กุศลให้เป็นเทพบุตรสู่ที่พักดุสิตบุรี
๒๐ ส.ค. ๕๓”
“ร่วมบำเพ็ญกุศลส่งนักรบขุนพลแก้วแห่งกองทัพธรรม
ระหว่างวันที่ ๒๐ - สิงหาคม ๒๕๕๓
ณ วัดสะเดารัตนาราม อ.ปราสาท จ.สุรินทร์”
โครงการ เผยแพร่หลักคิดประชาธิปไตยครอบครัวและชุมชน โดยสภาองค์กรชุมชนตำบลทุ่งมน
- ๑ กันยายน ๒๕๕๓ ดำเนินโครงการ เผยแพร่หลักคิดประชาธิปไตยครอบครัวและชุมชน โดยสภาองค์กรชุมชนตำบลทุ่งมน (กันยายน ๒๕๕๓- มีนาคม ๒๕๕๔ งบประมาณ สภาพัฒนาการเมือง)
ชื่อโครงการ เผยแพร่หลักคิดประชาธิปไตยครอบครัวและชุมชน โดยสภาองค์กรชุมชนตำบลทุ่งมน
โครงการประเภท เชิงพื้นที่ ๕ กิจกรรม ๑๐๐,๐๐๐ บาท
“ด้วยสภาพที่ภูมิประเทศมีความแห้งแล้ง เมื่อแล้งก็แล้งจัด ส่วนพื้นที่การเกษตรใดที่ราบลุ่มก็น้ำท่วมส่งผลให้ผลผลิตเสียหายตลอด สม่ำเสมอ ที่นาก็มีอย่างจำกัดเมื่อชุมชนแถบนี้มีประชากรเพิ่มมากขึ้น ประกอบอาชีพทำนาอย่างเดียว ในขณะที่เศรษฐกิจชุมชนยังมีรายได้น้อย แต่การใช้จ่ายมากขึ้นตามสังคมเมือง จึงมีปัญหาทางสังคมสลับซับซ้อนสูง มีลักษณะ“ชุมชนยากจนเหลื่อมล้ำกัน” “สังคมสมองไหล” “หัวก้าวหน้าย้ายถิ่น” “ชุมชนเก่านาน ที่ไม่เป็นที่ยอมรับกันว่าเป็นชุมชนเก่าแก่”
“ส่วนความสัมพันธ์กันเองในชุมชน จะมีเหตุการณ์เช่นนี้บ่อย คือ การแย่งชิงที่ดิน การรุกล้ำที่ดินและและกันหรือการย้ายรั้ว การล้ำรั้ว พิพาทที่ดิน การยืมข้าวเปลือกแล้วไม่มีข้าวส่งคืน การยืมเงินแล้วลืมคืน การให้กู้ยืมดอกเบี้ยสูงเพื่อประกันความเสี่ยง”
“เหตุการณ์ ปรากฎการณ์อีกหลาย ๆ อย่าง ที่เป็นตัวชี้วัดว่า ชุมชนทุ่งมนมีปัญหาทางเศรษฐกิจตั้งแต่อดีต คือ การหาบของขอข้าว หาบไต้ขอข้าว หาบมะพร้าวขอข้าว และสารพัดหาบขอข้าว แม้พระสงฆ์ในวัดก็ต้องออกบิณฑบาตข้าวสารทุกวัน ต้องขอเน้นว่า ขอ มิใช่แลก เพราะการขอกันกินมีความหมายมากกว่าแลกขาย ที่แลกขายก็มีเช่นกัน แต่เป็นการกระทำต่อกันในเมือง เช่น หาบกล้วยไปขาย หาบไก่ไปขาย ขนถ่านไปขาย ขายไก่ซื้อปลาร้า หาก้อนยางขายซื้อข้าว การหาบต้องเดินเท้าเท่านั้น เช่น จากทุ่งมนไปสุรินทร์ จากทุ่งมนไปปราสาท หลายคนในอดีต เคยขออยู่ช่วยทำนา ช่วยเลี้ยงวัวครอบครัวอื่น เพื่อขอข้าวมาเลี้ยงตัวและครอบคัว เรียกว่า “เนาว์พองกี” “อยู่กับเขา” ในสมัยปัจจุบันเปลี่ยนมาเป็นการรับจ้าง การรับเหมา งานก็เปลี่ยนเป็นงานก่อสร้าง งานโรงาน บริษัทไป เข้ากับระบบสังคมเศรษฐกิจแทน”
จากเวทีระดมความคิดเห็นจัดทำ SWOT ของสภาองค์กรชุมชนตำบลทุ่งมน อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ เมื่อวันที่ ๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๕๒ ได้ข้อมูล ดังนี้
จุดแข็งของตำบล
- -มีทรัพยากรธรรมชาติจำนวนมาก เป็นประเด็นงานพัฒนา
- -มีแหล่งเรียนรู้ที่หลากหลาย
- -มีปูชนียบุคคลที่โด่งดังหลายท่าน
- -มีบุคลากรที่มีความสามารถ เช่น เยาวชน พระสงฆ์ ผู้นำชุมชน ครู ภูมิปัญญา
- -ชุมชนองค์กรบูรณาการ บ้าน วัด โรงเรียน สถานีอนามัย องค์การบริหารส่วนตำบล
- -มีประเด็นงาน ไว้พัฒนาชุมชนที่หลากหลาย และต่อเนื่อง
- -ชุมชนแต่ละหมู่บ้านมีความร่วมมือกัน
จุดอ่อนของชุมชน
- -การประสานงานประชุมสภาองค์กรชุมชนตำบลยังไม่ครอบคลุม
- -ภาระที่ต้องรับผิดชอบในครอบครัวด้านเศรษฐกิจแต่ละครอบครัวหนัก
- - คนรุ่นผู้ใหญ่ขาดวุฒิทางการศึกษา / ในอดีตชุมชนด้อยการศึกษา
- -เยาวชนจำนวนหนึ่งออกเรียนกลางคัน
- - มีอบายมุขมาก (เหล้า การพนัน หวย หุ้น)
- -คนขาดแรงจูงใจในการประกอบอาชีพ/ทำงาน
- -ชุมชนยังอยู่ในวังวนการซื้อสิทธิ์ ขายเสียง / ระบบประชาธิปไตยอ่อนแอ
- -คน/ครอบครัวขาดที่ดินทำกินสูง / ชุมชนมีพื้นที่ทำนาจำนวนน้อย
- - มีแรงงานแฝงมาก ในครอบครัว ในชุมชน
- -หนี้นอกระบบ หนี้สินล้นพ้นตัว
- -ครอบครัวอ่อนแอ
โอกาส
- -ชุมชนสามารถพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์/วัฒนธรรมได้
- -มีแหล่งน้ำไหลผ่าน 2 สาย
- -มีกลุ่มองค์กรชุมชน เช่น กลุ่มหัวไร่ปลายนา กลุ่มเยาวชน วิทยุชุมชน โคกระบือ กลุ่มสวัสดิการชุมชน สภาองค์กรชุมชน
- -มีอาหารทางธรรมชาติจำนวนมาก
- -มีวัตถุดิบ ด้าน สมุนไพร อาหารชุมชน
- -สามารถใช้วัฒนธรรมชุมชนเป็นเครื่องมือในการพัฒนา
อุปสรรค
- -ภาวะภัยแล้ง น้ำท่วมซ้ำซาก
- -ไม่สามารถนำน้ำจากแหล่งน้ำมาใช้ประโยชน์ได้
- -คุณภาพดินด้อยคุณภาพ ดินไม่กักเก็บน้ำ ดินแห้งเร็ว เช่น ที่ดอน ที่โคก ที่ดินลูกรัง
- -สื่อภายนอกหลากหลายน่าสับสน
- -คนขาดข้อมูลในการพัฒนาตนเองและครอบครัว
- -คนขาดทักษะในการตัดสินใจตามสิทธิหน้าที่พลเมือง
- -รายได้ต่อครัวเรือนอยู่ในขั้นต่ำ
- -คนขาดทักษะในการประชาสัมพันธ์ สื่อสาร การต้อนรับ
ยุทธศาสตร์และแผนงานสภาองค์กรชุมชนตำบลทุ่งมน ปี ๒๕๕๒ – ๒๕๕๔ มีดังนี้
- แผนยุทธศาสตร์ที่ ๑ การจัดการน้ำ
- แผนยุทธศาสตร์ที่ ๒ การจัดการสาธารณะสุขและสุขภาพชุมชน
- แผนยุทธศาสตร์ที่ ๓ การจัดการประเพณีวัฒนธรรมภูมิปัญญาท้องถิ่น
- แผนยุทธศาสตร์ที่ ๔ เศรษฐกิจชุมชน
- แผนยุทธศาสตร์ที่ ๕ สวัสดิการชุมชน
- แผนยุทธศาสตร์ที่ ๖ ลด ละ เลิก อบายมุข
- แผนยุทธศาสตร์ที่ ๗ การจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
- แผนยุทธศาสตร์ที่ ๘ สื่อสาธารณะ
- แผนยุทธศาสตร์ที่ ๙ การพัฒนาสภาองค์กรชุมชนตำบล
จากองค์ความรู้และข้อมูลข้างต้น ที่ทางพื้นที่ได้รวบรวมแล้วนี้ สำหรับยุทธศาสตร์หลายอย่างที่ยังไม่มีงบประมาณดำเนินการ แต่ก็กิจกรรมหลายอย่างเช่นกันที่สามารถดำเนินงานได้เองด้วยวิถีชุมชน วิถีวัฒนธรรม แต่แม้ว่าทางกลุ่มคนมีกิจกรรม มีความพยายามดำเนินการอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ยังมีปัญหาอุปสรรคหลายด้านมีอยู่และกดทับไม่ให้เส้นทางแห่งการพัฒนาบรรลุเป้าหมายได้ตามคาด เช่นเดียวกันกับกิจกรรมอย่างหนึ่งที่ยังไม่กล้าแตะต้อง หรือดำเนินการเลย คือ การรณรงค์ให้เกิดเปลี่ยนแปลงเป็นสังคมที่ปลอดการซื้อสิทธิ์ขายเสียง ซึ่งปัญหานี้เกิดจากสภาพเศรษฐกิจชุมชน สังคม และการเมือง มีความเกี่ยวข้องสัมพันธ์กัน ในชุมชนตำบลทุ่งมน ด้านการเมืองจึงเป็นการเมืองเชิงอำนาจ มีการต่อสู้ทางการเมืองอย่างแน่นหนาตั้งแต่อดีตและปัจจุบัน ประชาชนบอบซ้ำมีทัศนคติจำยอม ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ตัดสินและทำลายผลงานดี ๆ คนดี ๆ ความคิดดี ๆ ที่ถูกต้อง ตลอดมา ถ้าทางสภาองค์กรชุมชนตำบลทุ่งมนจะได้ดำเนินโครงการเผยแพร่หลักคิดประชาธิปไตยครอบครัวและชุมชนโดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากสำนักงานสภาพัฒนาการเมืองก็จะเป็นข้ออ้างอิงผลักดันให้เกิดกิจกรรมที่ได้กำหนดไว้ตามที่ได้เสนอมานี้ ก็จะทำให้การแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างชุมชนจะเกิดการพัฒนาหรือเกิดการเปลี่ยนแปลงได้พอสมควร หากไม่มีโครงการนี้ชุมชนคงจะยังอยู่ในวังวนการซื้อสิทธิ์ ขายเสียง / ระบบประชาธิปไตยอ่อนแอ อย่างแน่นหนาต่อไป
วัตถุประสงค์
๑. เพื่อสร้างเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้หลักคิดประชาธิปไตยในครอบครัวและชุมชน
๒. เพื่อกระตุ้นกลุ่มเป้าหมายให้กล้าพูดกล้าแสดงออกในที่ชุมชนและสื่อสารธารณะ
๓. เพื่อส่งเสริมให้คนในชุมชนตระหนักหน้าที่ของพลเมือง
๔. เพื่อสร้างวัฒนธรรมประชาธิปไตย ซึมซับเป็นวิถีชีวิต ครอบครัว ชุมชน สังคม
ความสอดคล้องกับกิจกรรมที่ขอรับการสนับสนุนงบประมาณ
โครงการนี้มีความสอดคล้องกับหลักเกณฑ์สภาพัฒนาการเมือง คือ
( ๑ ) กิจกรรมที่มีลักษณะการดำเนินงานที่เป็นการส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาการเมืองภาคพลเมือง การพัฒนาวัฒนธรรมประชาธิปไตย และสถาบันทางการเมืองรวมทั้งสถาบันอื่นที่เกี่ยวข้อง การดำเนินงาน ( ๒ ) กิจกรรมที่เป็นการสนับสนุนหรือส่งเสริมให้ประชาชนเกิดความตระหนักถึงความสำคัญของการเมือง สิทธิ หน้าที่ และความรับผิดชอบของประชาชนที่พึงมีภายใต้ระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข 26 ก.ย.2553 โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊ค ว่า “โซน ๔ สามัคคีร่มเย็น ประกอบด้วย อ.ปราสาท อ.พนมดงรัก อ.กาบเชิง และ อ.บัวเชด” 28 ก.ย.2553 โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊ค ว่า “เมื่อวาน ต.ปราสาททนง แสดงศักยภาพ มีแววเป็นตำบลจัดการตนเองได้ในอนาคต”
- ๒๙ กันยายน ๒๕๕๓ บันทึกแนวทางการจัดเวทีเผยแพร่หลักคิดประชาธิปไตย ครอบครัว และชุมชน
- จัดเวทีลักษณะประชาคมหมู่บ้าน หรือ เวทีกรรมการหมู่บ้าน / แกนนำหมู่บ้าน - สถานที่ควรเป็นศาลา หรือ ห้องประชุม ที่สะดวกต่อการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ - ควรจัดกลางวัน และมีเวลาเพียงพอในการบรรยาย ระดมความคิด นำเสนอ แลกเปลี่ยนกัน - ทุกหน่วยงานในตำบลร่วมลงรับฟังในเวที - วิทยากรบรรยายเป้าหมายที่ต้องการ คือ ระเบียบข้อปฏิบัติในหมู่บ้าน ระเบียบข้อปฏิบัติในครอบครัวให้เกิดสุข และ ร่างธรรมนูญตำบล - เตรียมกระดาษ ปากกาเคมี - แบ่งกลุ่มระดมความคิด ๒ ประเด็น คือ ระเบียบข้อปฏิบัติในหมู่บ้าน และ ระเบียบข้อปฏิบัติในครอบครัวให้เกิดสุข แล้วรวมกลุ่มระดมความคิดเพื่อร่างธรรมนูญตำบล แล้วนำเสนอ แลกเปลี่ยนกันในเวที - นำข้อมูลจากทุกหมู่บ้าน ยกร่างเป็นธรรมนูญตำบล - เวทีในโรงเรียน ให้แบ่งกลุ่มนักเรียนตามหมู่บ้าน แสดงความคิดเห็นต่อระเบียบข้อปฏิบัติในหมู่บ้าน และ ระเบียบข้อปฏิบัติในครอบครัวให้เกิดสุข ร่างธรรมนูญตำบล ที่ผ่านเวทีหมู่บ้านแล้ว - ก่อนประกาศใช้ระเบียบข้อปฏิบัติในหมู่บ้าน ระเบียบข้อปฏิบัติในครอบครัวให้เกิดสุข และธรรมนูญตำบล ลงประชาคมหมู่บ้านอีกครั้ง - ถ่ายทอดสดการจัดเวทีสู่วิทยุชุมชน ช่วงท้ายของการจัดเวที - อัดเสียงเวที ช่วงสำคัญ ๆ เป็นตอน ๆ ง่ายต่อการออกอากาศวิทยุชุมชน - สัมภาษณ์อัดเสียงรายบุคคล ประมาณ ๑๐๐ ท่าน คนละ ๓-๕ นาที มี ผอ. ครู ตำรวจ พระ นายก อบต. สมาชิก อบต. ปลัด อบต. กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผช.ผู้ใหญ่บ้าน หมอ ผู้นำชุมชน/ธรรมชาติ เด็ก เยาวชน - คำถามที่ใช้สัมภาษณ์ คือ (๑) ทำอย่างไรจะเกิดประชาธิปไตยในหมู่บ้าน (๒) ทำอย่างไรจะเกิดประชาธิปไตยในครอบครัวที่เกิดสุข (๓) ธรรมนูญตำบล(ข้อตกลงร่วมกัน)ที่ท่านอยากได้ อยากเห็น (๔) ท่านจะทำอะไรบ้าง ที่จะทำให้ชุมชนตำบลทุ่งมนอยู่เย็นเป็นสุขร่วมกัน - นำเสียงลงไว้ในคอมฯ นำออกอากาศเป็นตอน ๆ เป็นคน ๆ ซ้ำ ๆ ตลอดไป แนะนำตัว ชื่อ................................................................................ ที่อยู่................................................................................ ทักทายผู้ฟัง............................................................................... ( ตอบคำสัมภาษณ์ตามลำดับ) (๑) ทำอย่างไรจะเกิดประชาธิปไตยในหมู่บ้าน (๒) ทำอย่างไรจะเกิดประชาธิปไตยในครอบครัวที่เกิดสุข (๓) ธรรมนูญตำบล(ข้อตกลงร่วมกัน)ที่ท่านอยากได้ อยากเห็น (๔) ท่านจะทำอะไรบ้าง ที่จะทำให้ชุมชนตำบลทุ่งมนอยู่เย็นเป็นสุขร่วมกัน
คิดแบบ พระมหาวีระ กิตฺติวณฺโณ
- ๒๙ กันยายน ๒๕๕๓
บันทึกไว้เป็นอักษร เมื่อ ก.ย. ๕๓
เพียรเพื่อพุทธศาสน์ ปราชญ์เพื่อศาสนิก ปฏิบัติเป็นพุทธบูชา
- - ทำดี อุทิศคนดีทั้งโลก
- - ทำงานได้กับทุกคน / ทำงานกับใครก็ได้
- - เอาความคิดดี ๆ ของคนอื่นมาเป็นแนวปฏิบัติ/แนวทำงาน
- - เราไม่ใช่เจ้าของความดี / ถ้าจะมีใครมาติเตียนเรา ก็จะไม่กระทบเฉพาะเรา / เราไม่ใช่เป้าที่ใครจะมาติเตียนหรือกระทบกระทั่ง เราไม่ใช่เจ้าของความคิด เป็นเพียงผู้ประมวลผลเท่านั้น
- - ทำงานโดยไม่หวังคำสรรเสริญ แต่หวังคนอื่นมีกำลังใจในการทำความดี หวังเพิ่มจำนวนผู้คนดีจำนวนมากขึ้น
- - ทำดี เพื่อเกื้อกูลคนดีได้ทำดีต่อไปได้ / ทำดีเพื่อรักษาคนดีไว้
- - สร้างสิ่งแวดล้อมให้ดี เพื่อรักษาคนดี
- - ขจัดอุปสรรคให้น้อยลง เพื่อคนที่กำลังเริ่มทำดี ได้ทำความดีอย่างสะดวกสบาย
- ทำดีเพื่อความดี ให้คนดีทำความดีได้ง่ายขึ้น
- ทำดีสนับสนุนคนทำดี
- ๒ ตุลาคม ๒๕๕๓ โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊ค ว่า
“งานบุญแซนโฎนตาปลอดเหล้าต.ทุ่งมน บายสะปั๊วะ ผักพื้นบ้านอาหารปลอดภัย
- ๖ ตุลาคม ๒๕๕๓ เวลา ๐๙.๐๐ - ๑๘.๐๐ น.
ณ ศูนย์เรียนรู้แบบบูรณาการตำบลทุ่งมน
ประสานงานบุญ โดย สภาองค์กรชุมชนตำบลทุ่งมน”
- ๗ ตุลาคม ๒๕๕๓ บันทึก แนวทางพัฒนาศักยภาพ สภาองค์กรชุมชนตำบลทุ่งมน
ในอายุของสภาอีก ๑ ปี ๙ เดือน
- ๑. ประชาสัมพันธ์ สร้างความเข้าใจกับประชาชนในแต่ละหมู่บ้าน เรื่อง องค์ประกอบสภา และ ภารกิจสภา
- ๒. ในช่วงแรก สภารุ่นที่ ๑ นี้ ยังอ่อนแอ โครงสร้างไม่ชัดเจน ขอปรับตัวแทนหมู่บ้านละ ๔ คน ให้ชัดเจน เพื่อเคลื่อนสภาอายุที่เหลืออีก โดยไม่ต้องเน้นว่ามาจากตัวแทนองค์กรชุมชน และอาจจะเป็นสตรี ๒ คนจะดีมาก
- ๓. ประกาศตัวตนของสมาชิกสภาที่มาจากองค์กรชุมชนระดับตำบล และ ผู้ทรงคุณวุฒิให้ชัดเจน
- ๔. จัดทำเอกสาร / จุลสาร ทำเนียบสมาชิกสภา ที่มีรูปภาพประกอบด้วย
- ๕. นัดประชุมประจำเดือน และถ่ายทอดสดผ่านวิทยุชุมชนทุกครั้ง
- ๖. นัดรับประทานอาหาร บายสะปั๊วะ เดือนละ ๑ ครั้ง มีการสนทนากัน และปรึกษาหารือเรื่องราวในตำบล ให้บรรยากาศสบาย ๆ ถ่ายทอดสดผ่านวิทยุชุมชน ให้แต่ละชุมชนรับเป็นเจ้าภาพจัดงานเวียนกัน โดยสมทบค่าอาหารให้บ้าง
- ๗. เชิญสมาชิก อบต. เข้ากิจกรรมอย่างต่อเนื่อง
- ๒๙ ตุลาคม ๒๕๕๓ กฐินเด็กดีวีสตาร์ จากโรงเรียนทุ่งมนวิทยาคาร
- 30 ต.ค. 2553 จ่ายค่ารถกระบะเขียว สุดท้าย 94,000 บาท รวม 224,000 บาท
- ๒๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๓ อุบาสิกาแก้ว ร่วมสัมมนา ณ วัดพระธรรมกาย จำนวน ๒๓ คน ๒ รถตู้
- ๑๖-๒๙ ธันวาคม ๒๕๕๓ จัดบวชอุบาสิกาหน่อแก้ว ณ วัดสะเดารัตนาราม
- ๒๙ ธันวาคม ๒๕๕๓ เวลา ๑๗.๐๐ น. ณ หน้ามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสุรินทร์ กิจกรรม จุดเทียน ปล่อยโคมประทีป ๕๕๕ ดวง อุทิศส่วนบุญส่วนกุศล แก่คู่กรรมคู่เวรที่มีวิบากกรรมร่วมกัน ตั้งจิตภาวนา ปีใหม่ เริ่มต้นใหม่ ชีวิตสดใส ตั้งใจรักษาศีล โครงการใต้ร่มบารมีพระธรรมโมลี พระราชวรคุณ เจ้าคณะจังหวัดสุรินทร์ เพื่อเชิญชวนชาวสุรินทร์ หมั่นทำทาน รักษาศีล เจริญสมาธิภาวนา งดเหล้าในงานบุญประเพณีทุกประเภท ร่วมมือร่วมด้วยช่วยกันยุติความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และครอบครัว รูปแบบต่าง ๆ ที่ทำลายความอบอุ่นในครอบครัว สู่เป้าหมายความสำเร็จคือการเลิกเหล้า เลิกมัวเมา เลิกมึน เลิกการพนัน เลิกอบายมุข เลิกเป็นหนี้ เลิกโง่ เลิกเจ็บ เลิกจน จังหวัดสุรินทร์เป็นจังหวัด ที่น่าอยู่ที่สุด หรือคนสุรินทร์อยู่เย็นเป็นสุขร่วมกันอย่างยั่งยืน ตามวิถีชุมชนชาวพุทธและวิถีชีวิตชุมชนท้องถิ่นจังหวัดสุรินทร์
