พัฒนาการวัดสะเดารัตนาราม สู่วัดปฏิบัติธรรม

จาก wiki.surinsanghasociety
ไปยังการนำทาง ไปยังการค้นหา

สัมมาอะระหัง

  • มีนาคม ๒๕๔๕ เขียนความตั้งใจเรื่อง การสร้างชุมชนกัลยาณมิตร ลงบนสำเนาโฉนดที่ดินวัดที่รับมาใหม่จากที่ดิน ความคิดนี้มีผลต่อการเริ่มขับเคลื่อนงานพัฒนาสังคมระดับจังหวัด
  • กันยายน-ตุลาคม ๒๕๕๕ อบรมสานสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา การทูตภาคประชาชน เกิดแนวคิดเรื่อง วัดคู่พัฒนากับจังหวัดอุดรมีชัย กัมพูชา คิดสร้างวัดปราสาทผะอ็อง ทางอุดรมีชัย เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมฝั่งทางเขมร ให้คนไทยได้แวะพัก หรืออยู่ปฏิบัติธรรมระยะสั้น [1]

[2] (อบรมรุ่นหลัง)

  • ๒๑ พฤษภาคม ๒๕๕๖ อธิฐานความดีสากล ๕ ด้วยการพิมพ์ข้อความติดไว้ในวัด
  • ๒๐ กรกฎาคม ๒๕๕๖ เขียนกลอนบวรทุ่งมน และได้มีการร้องเพลงอัดเสียงบวรทุ่งมน ความคิดนี้มีผลเริ่มลงงานพื้นที่ตำบลมากขึ้น

บวรทุ่งมน
ทุ่งมนธรรมอำไพ สะอาดใจโปร่งใสหนอ
หลักธรรมงามละออ ครอบครัวก็อบอุ่นกัน
ภาคีทุกภาคส่วน ร่วมขบวนทุ่มสร้างสรรค์
ทุ่งมนชื่อโจทก์จัน เยาวชนนั้นทีมทำงาน
ป่าไม้กบาลแสร วิทยุพันธุ์แท้พันธุ์อาจหาญ
ข่าวสารทันเหตุการณ์ สื่อเบิกบานเรียนรู้ทัน
หลวงปู่ถึงหลวงพี่ ธรรมะดีชี้สุขสันต์
นำเดินถือธงธรรม์ สุขภาพปันกายใจปอง
โรงเรียนใสสะอาด ปราศจากสิ่งเศร้าหมอง
สามัคคีรักปรองดอง ศึกษาคล่องวิทย์คณิตไทย
บวรถิ่นนี้น่าอยู่ ยืนหยัดคู่อาเซียนได้
ชุมชนจัดการใหม่ ก้าวหน้าไปปราชญ์เปรื่องรุ่งเรืองธรรม.

พระมหาวีระ กิตฺติวณฺโณ
๒๐ ก.ค.๕๖
ณ วัดสะเดารัตนาราม

  • ๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๒ เข้าปฏิบัติธรรม ๓๐ วัน ตามระเบียบหลักสูตรบัณฑิตศึกษา ที่สติภาวนาภิรตาราม อ.สังขะ เริ่มมีความคิดการพัฒนาตนในภาคปฏิบัติธรรมชัดเจนขึ้น เริ่มลงรายละเอียดทิศทางในวัดสะเดารัตนาราม ในช่วงอยู่ปฏิบัติได้มีการออกแบบให้วัดสะเดารัตนาราม เป็นห้องเรียนย่อยของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรราชวิทยาลัยวิทยาเขตสุรินทร์มจร. ที่เน้นการปฏิบัติธรรมกับอาจารย์ มจร.
กิจวัตรสติภาวนาภิรตาราม.jpg
  • กุมภาพันธ์ ๒๕๖๓ เรียบเรียงบทความวิชาการวัดสะเดารัตนารามปฏิบัติธรรม รายงานวิชากรรมฐาน ๖๐๐ ๒๐๕

เรื่อง ศึกษาแนวทางการปฏิบัติกรรมฐานของวัดสะเดารัตนาราม
ตำบลทุ่งมน อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์
เสนอ
พระอธิการเวียง กิตฺติวณฺโณ ดร.
โดย
พระครูปริยัติกิตติวรรณ (กิตฺตวณฺโณ/ได้ทุกทาง)
หลักสูตรพุทธศาสตรมหาบัณฑิต (พธ.ม.) สาขาวิชาพระพุทธศาสนา
นิสิต ชั้นปีที่ ๑ (รุ่นที่ ๑๐/๒๕๖๒)
บัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตสุรินทร์
กุมภาพันธ์ ๒๕๖๓


  • ทุนการศึกษาที่นำไปสู่การปฏิบัติธรรม

(ขอเสนอความคิด ร่าง)แผนงานเครือข่ายความร่วมมือ

มจร.สุรินทร์ กับ คณะสงฆ์ จ.อุดรมีชัย (ปีการศึกษา ๒๕๖๒-๒๕๖๔)
  • จัดการเรียนการสอนหลักสูตรระยะสั้น ๑ หลักสูตร ปีการศึกษา ๒๕๖๓ ณ จ.อุดรมีชัย
  • จัดตั้งชมรมพระนักศึกษากัมพูชา ใน มจร.สุรินทร์
  • พัฒนาสถานที่ปฏิบัติ ณ จ.อุดรมีชัย
  • สนับสนุนการอนุรักษ์พื้นที่ป่าคณะสงฆ์ ๑๐๙,๕๖๖ ไร่ ณ จ.อุดรมีชัย เยี่ยมชมพร้อมเครื่องบริโภค อุปโภค ๓ เดือนต่อ ๑ ครั้ง
  • ร่วมกับคณะสงฆ์และศาสนิกชน ในวาระกิจกรรมงานบุญทอดกฐิน/ผ้าป่าสามัคคี ถวายสังฆทาน ณ จ.อุดรมีชัย ๔๐ วัด
  • สนับสนุนกิจกรรมการบวชสามเณร บวชพระภิกษุ
  • สนับสนุนวัดที่ดำเนินกิจกรรมพัฒนาเยาวชน สามเณร
  • สนับสนุนพระภิกษุอุดรมีชัย กัมพูชา เข้าศึกษาต่อระดับอุดมศึกษา ณ มจร.สุรินทร์


๑๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๓

(แนวคิด /ร่าง)
กองทุนคณะสงฆ์และศิษย์เก่า มจร.สุรินทร์เพื่อทุนการศึกษาคณะพุทธและคณะอื่น
มอบทุนการศึกษาเฉพาะค่าเทอมปริญญาตรี ๑๐๐% ไม่เกิน ๔ ปี หรือ ๘ เทอม สำหรับพระภิกษุกัมพูชาทุกรูปและ พระภิกษุจังหวัดสุรินทร์จำนวนเท่ากับพระภิกษุทางกัมพูชาในระดับปริญญาตรี
พระภิกษุผู้รับทุนต้องทำภารกิจกิจกรรม ๕ ส.ในวัดของตนและมจร.สุรินทร์ และฝึกตนตามแนวความดีสากล ๕ ข้อ ตลอดการรับทุนการศึกษาเฉพาะค่าเทอม
วิธีระดมทุนให้วัดแต่ละวัดบริจาคเข้ากองทุน
หรือศิษย์เก่ามจรบริจาคเข้ากองทุน
โดยใช้แนวคิดธรรมาภิบาลเข้ามาดำเนินงานคือการบริจาคเข้ากองทุนมีการบันทึกค่าโปรแกรมออนไลน์เปิดเผยเป็นผลงานได้ในภารกิจ ๖ ด้านของคณะสงฆ์ซึ่งโปรแกรมกำลังเขียนอยู่
ฝึกตนตามแนวความดีสากล 5 ข้อคือฝึกความสะอาด ฝึกความเป็นระเบียบ ฝึกความสุภาพอ่อนโยน ฝึกความตรงต่อเวลาและฝึกจิตใจมั่นคงหรือสมาธิ
พระภิกษุกัมพูชาก่อนจะเข้าเรียนปริญญาตรีต้องผ่านการคัดเลือกจากคณะกรรมการว่ามีคุณลักษณะนิสัยพอจะเรียนจบ
พระภิกษุจังหวัดสุรินทร์ก็ให้มีคณะกรรมการคัดเลือกโดยทำงานร่วมกับคณะสงฆ์และวัดนั้น
หลักที่สำคัญคือการพัฒนาบุคลากรเป็นบทบาทหน้าที่ของวัดทุกวัด ของพระสังฆาธิการทุกรูปของญาติโยมผู้อุปถัมภ์ศาสนา
๕ มีนาคม ๒๕๖๓ [3]


  • ๗ สิงหาคม ๒๕๖๔ แต่งกลอนวัดสะเดารัตนารามอารามธรรม และให้มีการร้องอัดเสียงเพลง

“วัดสะเดารัตนารามอารามธรรม
พร้อมน้อมนำสัจธรรมธรรมชาติใส
รักษ์ต้นไม้เน้นสะอาดดูกายใจ
จิตผ่องใสชวนกันนั่งผ่อนคลายจริง
ลมหายใจจดจ่อสติจับ
เข้าออกนับต่อเนื่องหนอทั้งชายหญิง
อบอุ่นธรรมเครือญาติทางธรรมจริง
บำเพ็ญมิ่งขวัญพลังกำลังใจ
ชุมชนธรรมกัลยามิตรจิตเบิกบาน
สมัครสมานกลมเกลียวศึกษาให้
แบ่งปันเกื้อการุณย์คนใกล้ไกล
ศึกษาใสพัฒนาตนสู่สันติธรรม”
๗ สิงหาคม ๒๕๖๔

ลมหายใจลมหายใจลมหายใจ
ลมหายใจช่วยผ่อนคลายยามจิตสับสน
ลมหายใจมีอยู่กับทุกๆคน
ยามจิตสับสนให้สนใจในลมหายใจ
หายใจยาวหายใจลึกสูดลมให้สุดอุรา
ลมจะพาผ่อนคลายเกิดสุขผ่องใส
ความทุกข์ระทมหม่นหมองจะจางคลายไป
สูดลมได้ใกล้ตัวอย่ามัวรีรอ
สูดหายใจในขณะทำกายนิ่ง
พลังเกิดจริงอิ่มกายใจสุขหนอ
ยามทุกข์ยากลำบากมีทรัพย์ไม่พอ
ไม่มัวท้อรีบนั่งสูดลมหายใจ
พระครูปริยัติกิตติวรรณ
๒๗ สิงหาคม ๒๕๖๔

ทำลมหายใจให้เกิดสุข ปลดปล่อยทุกข์ลดได้หายใจนี้
ลมหายใจเข้าออกดูดี ๆ หายใจนี้คลายทุกข์ดีต่อใจ
หายใจที่ไหน ๆ ก็ทำได้ ทำสบาย ๆ ไม่เลือกที่ใจใสใส
สติจับลมเข้าออกดูเป็นไป เรื่องทันสมัยที่สุดรู้ปัจจุบัน
เด็ก ๆ ทำกันง่ายง่ายจริง ๆ หนุ่มสาวยิ่งมีสติจิตสร้างสรรค์
เพลิดเพลินจิตบันเทิงใจปัญญาพลัน ผู้ใหญ่ยิ่งมั่นคงอารมณ์ธรรม
จะคนวัดนอกวัดหัดกันได้ มิเว้นสายศาสนาความเชื่อย้ำ
ทุกผิวพรรณเชื้อชาติหายใจประจำ คิดคิดซ้ำลมหายใจสำคัญจริง
ทำลมหายใจให้เกิดสุข เพลิดเพลินสนุกสร้างสรรค์จิตใสปิ๊ง
เพิ่มคุณค่าชีวิตชัดแจ้งยิ่ง เข้มแข็งมิ่งมงคลมนุษย์โลกา
๑๘ ตุลาคม ๒๕๖๔

  • เมษายน ๒๕๖๕ วางแนวทางความดีสากล ๕ และพัฒนาวัด ประชา รัฐ สร้างสุข
  • คำถาม "ถ้าว่าวัดสะเดารัตนาราม จะเป็นเป็นวัดปฏิบัติธรรม ซึ่งจะมีการปฏิบัติธรรมต่อเนื่องเป็นนิสัย (ทุกวัน) จะต้องดำเนินการอย่างไรบ้าง" ๒๓ เมษายน ๒๕๖๕
  • ๒ พฤษภาคม ๒๕๖๕ เริ่มเรียบเรียงเรื่องราววัดส่งเสริมสุขภาพ และเหตุการณ์เรื่องราววัดปฏิบัติธรรมในลงวิกิสุรินทร์สังฆะ เว็บไซด์ของวัด

เพราะทางวัดได้รับการประสานงาน สอบถามจาก รพ.สต.ทุ่งมน ทางไลน์ และได้เผยแพร่ข้อมูลให้เครือข่ายเรียนรู้ องค์ประกอบวัดส่งเสริมสุขภาพ 5 อย่าง คือ (๑)สะอาด ร่มรื่น (๒) สงบ ร่มเย็น (๓) สุขภาพ ร่วมสร้าง (๔) ศิลปะร่วมคิด (๕) ชาวประชาร่วมพัฒนา [4]

  • ๒๘ พฤษภาคม ๒๕๖๕ อุบาสิกา ๑ ท่านขอบวชเป็นแม่ชี วันแรกที่เริ่มมีการนั่งสมาธิ ๑ ชั่วโมง เวลา ๑๗.๐๐ น.
  • ๓๐ มิถุนายน ๒๕๖๕ คนที่เคยบวชพระวัดพระธรรมกาย ๑๓ ปี มาขออยู่วัด ได้ช่วยงานวัด มีการเพิ่มความสะอาดมากขึ้น
  • กรกฎาคม ๒๕๖๕ มีพัฒนาการลงลายละเอียดภายในวัดมากขึ้นตามลำดับ


การบริกรรมภาวนา คือการระลึกถึงสิ่งใดสิ่งหนึ่งอย่างต่อเนื่อง และไม่ให้คลาดเคลื่อนห่างออกจากสติ จึงมีการเปล่งเสียงเบา ๆ แม้การออกเสียงในใจก็ต้องทำ ไม่อย่างนั้นจะลืมเลือนได้
การบริกรรมภาวนา เป็นการพัฒนาจิตให้เกิดความสงบขึ้น เมื่อฝึกบ่อย ๆ จะเกิดกำลังใจ หรือ การเป็นคนที่ให้กำลังตนเองได้ ความคิดดี ๆ มีเมตตาจะเกิดขึ้นโดยอัตโนมัติ
คำที่ใช้บริกรรมภาวนา ได้แก่ พุทโธ สัมมาอรหัง เป็นต้น ซึ่งเป็นคำที่เกี่ยวเนื่องกับพระศาสดา พุทธานุสติ
24 สิงหาคม 2565

ทำบริกรรมภาวนา ที่มี 5 พยางค์ ช่วยให้การบริกรรมใช้เวลาลมหายใจยาวขึ้น จึงเพิ่มประสิทธิภาพในการดึงอากาศหายเข้าสู่ปอดได้มากขึ้น และความยาวของลมหายใจมีผลต่อความละเอียดอ่อนของอารมณ์ บริกรรมเวลานานๆอย่างต่อเนื่องความละเอียดอ่อนของอารมณ์ก็จะถูกพัฒนาอย่างต่อเนื่องไปในขณะเดียวกัน
24 สิงหาคม 2565

  • 21 กันยายน 2565 กำหนดกิจวัตร เพื่อจำทำป้าย เดือน เมษายน 2566

กิจวัตรประจำวัน สำหรับพระภิกษุ.jpg


ต้องสอนพระ ชี อนาคต สิ่งที่พึงระวัง เพราะจะให้เสื่อม และเป็นทุกข์
1.เว้นการดูหมิ่นความคิดเจ้าอาวาส
2.ทำงานใด ๆ ให้ยกความดีแก่เจ้าอาวาส หรือวัด เว้นขาดคือการยกความดีใส่ตนเพียงฝ่ายเดียว เพราะนำไปสู่การดูหมิ่นเจ้าอาวาส
3.รีบทำตามคำแนะนำของเจ้าอาวาสโดยเร็ว ไม่อย่างนั้นจะพลอยยินดีสิ่งที่ต้องข้ามกับเจ้าอาวาส
4.เว้นการศรัทธาที่ต่างจากเจ้าอาวาส เพราะการเชื่อต่าง จะทำให้ทัศนะต่าง นำไปสู่ความขัดแย้ง
15 ธ.ค.2565